Google ปล่อยโหมด Deep Think ให้สมาชิก AI Ultra แก้โจทย์ยากด้วยตรรกะขั้นสูง

หลังจากปล่อยทีเซอร์เรียกน้ำย่อยไปเมื่อเดือนก่อนพร้อมกับการเปิดตัว Gemini 3 Pro ตอนนี้ Google เดินเกมรุกฆาตด้วยการเปิดให้ใช้งานโหมด "Deep Think" อย่างเป็นทางการแล้ว แต่ช้าก่อน... ไม่ใช่ทุกคนจะได้สัมผัสความฉลาดนี้ เพราะฟีเจอร์นี้สงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกระดับท็อปอย่าง Google AI Ultra เท่านั้น

สิ่งที่ทำให้ Deep Think น่าสนใจคือการที่ Google นิยามมันว่าเป็น "most advanced reasoning mode" หรือโหมดการใช้เหตุผลที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Parallel Reasoning หรือการประมวลผลตรรกะแบบขนาน ทำให้ AI สามารถสำรวจสมมติฐานหลายๆ ทางเลือกได้ในเวลาเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่คำตอบทื่อๆ แต่เป็นโค้ดที่ละเมียดขึ้น (Refined) และมีความละเอียดอ่อน (Nuanced) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และตรรกะที่ซับซ้อนระดับที่มนุษย์ยังต้องกุมขมับ

แน่นอนว่าความฉลาดล้ำลึกนี้ต้องแลกมาด้วยเวลา (คำตอบอาจใช้เวลาประมวลผลหลายนาทีกว่าจะตอบกลับมา) แต่เมื่อดูจากผลทดสอบ Benchmark ที่พัฒนาขึ้นจากเวอร์ชัน 2.5 ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การรอคอย:

• Humanity’s Last Exam: ทำคะแนนได้ 41.0% (โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย)
• GPQA Diamond: กวาดไปถึง 93.8%
• ARC-AGI-2: ทำได้ 45.1% (พร้อมความสามารถในการรันโค้ด)

ก่อนหน้านี้ Google เคยออกมาเบรกความร้อนแรงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยขอเวลาเพิ่มเพื่อ "ประเมินความปลอดภัย" และรับฟังความเห็นจากผู้ทดสอบ ซึ่งก็ถือเป็นการเดินหมากที่รอบคอบสำหรับโมเดลที่มีพลังการคิดวิเคราะห์สูงขนาดนี้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับใครที่กระเป๋าหนักและสมัครแพ็กเกจ Google AI Ultra ไว้ที่ราคา US$250 (≈ 8,100 บาท) ต่อเดือน สามารถเข้าไปกดเลือกโหมดนี้ได้เลยที่เมนู Tools แล้วเลือก "Thinking" ส่วนใครที่ใช้แพ็กเกจธรรมดา ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าเทคโนโลยีระดับเทพนี้จะไหลลงมาสู่ผู้ใช้ทั่วไปเมื่อไหร่ หรืออาจจะต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายถ้าอยากให้ AI ช่วยคิดแทนในระดับที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

*หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 32.38 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ