Apple สู้กลับในศาล EU ชี้กฎ DMA ละเมิดสิทธิ์ ส่วน EU แฉกลับ หวังล็อกผู้ใช้ทำกำไร

ดูเหมือนว่าสงครามน้ำลายระหว่าง Apple กับหน่วยงานกำกับดูแลจะยังไม่จบง่าย ๆ ล่าสุด Apple ขึ้นศาลในลักเซมเบิร์กเพื่อโต้แย้งกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป โดยชี้ว่าเป็นกฎที่ "สร้างภาระและก้าวก่ายอย่างมาก" ขณะที่ฝั่ง EU ก็ตอกกลับอย่างเจ็บแสบว่า Apple แค่ต้องการ "ควบคุมทุกอย่างเบ็ดเสร็จ" เพื่อล็อกผู้ใช้งานและ "ทำกำไรมหาศาลเกินปกติ"

ย้อนความกันเล็กน้อย กฎหมาย DMA ของยุโรปถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ถูกเรียกว่า "Gatekeepers" (ผู้คุมกฎ) ซึ่งมีอำนาจในตลาดมากพอที่จะผูกขาดและกีดกันการแข่งขันได้ Apple เองก็โดนจัดอยู่ในกลุ่มนี้เต็ม ๆ โดยเฉพาะประเด็นการผูกขาด App Store บน iPhone ทำให้บริษัทต้องยอมเปิดทางให้มี App Store ทางเลือกเกิดขึ้นในที่สุด

ที่น่าสนใจคือ DMA ไม่ได้หยุดแค่นั้น แต่ยังกำหนดว่าถ้า Apple จะออกฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของตัวเอง เช่น AirPods ก็ต้องเปิดให้ฮาร์ดแวร์ของบริษัทอื่นเชื่อมต่อและใช้งานฟีเจอร์เหล่านั้นได้ด้วย ซึ่ง Apple ก็อ้างว่าเรื่องนี้ท้าทายด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอย่างมาก จนต้องยอมเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บางอย่างใน EU ออกไปก่อน

ในการพิจารณาคดีล่าสุด Daniel Beard ทนายของ Apple ยืนยันต่อศาลว่า DMA เป็นภาระที่ "ก้าวก่ายและหนักหน่วง" และยัง "เพิกเฉยต่อการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงประเด็นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของพลเมือง EU แต่ทาง Paul-John Loewenthal ทนายฝั่งคณะกรรมาธิการยุโรปก็สวนกลับทันควันว่า "การควบคุมเบ็ดเสร็จ" ของ Apple ทำให้บริษัทสามารถสร้าง "กำไรที่สูงเกินปกติ" และล็อกผู้ใช้สมาร์ทโฟนในยุโรปไว้ได้กว่าหนึ่งในสาม เพราะ "มีแค่ Apple เท่านั้นที่ถือกุญแจสู่สวนสวยที่มีกำแพงล้อมรอบ (Walled Garden) นี้"

เรื่องนี้เกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่มีข่าวลือว่า Apple ใกล้จะบรรลุข้อตกลงยอมความกับ EU แล้วแท้ ๆ ดูทรงแล้วมหากาพย์นี้คงยังไม่จบง่าย ๆ สงสัยว่าคงต้องสู้กันอีกหลายยกเลยทีเดียว