ไฟดับทำพิษ! Waymo ระงับบริการในซานฟรานซิสโก หลังรถจอดนิ่งเกลื่อนถนน

กลายเป็นภาพความโกลาหลที่ดูเหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟดิสโทเปีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาในเมือง San Francisco ไม่ใช่แค่เพราะไฟฟ้าดับจนเมืองมืดมิด แต่เพราะเหล่ารถยนต์ไร้คนขับสุดล้ำอย่าง Waymo ดันพากันจอดนิ่งสนิท (Stalled) อยู่กลางถนนและทางแยก ทำให้การจราจรที่แย่อยู่แล้วยิ่งเป็นอัมพาต จนชาวเน็ตแห่แชร์ภาพรถ Robotaxi จอดขวางทางขณะที่คนขับรถทั่วไปต้องพยายามหักหลบกันจ้าละหวั่น

ทาง Waymo ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดย Suzanne Philion โฆษกของบริษัทได้ออกมาชี้แจงกับ TechCrunch ว่าจำเป็นต้องระงับบริการ Ride-hailing ในพื้นที่ San Francisco Bay Area ชั่วคราว เนื่องจากเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง โดยทีมงานกำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่เมืองเพื่อตรวจสอบความเสถียรของโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนจะกลับมาให้บริการอีกครั้งเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย

ที่น่าสนใจคือ Waymo ไม่ได้ระบุสาเหตุทางเทคนิคชัดเจนว่าทำไมไฟดับถึงทำให้รถ "น็อค" ได้ขนาดนี้ แต่มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุหลักน่าจะมาจากสัญญาณไฟจราจรที่ดับไปพร้อมกับไฟฟ้า (ซึ่งแม้แต่นายกเทศมนตรี Daniel Lurie ยังเตือนให้ประชาชนงดใช้ถนนถ้าไม่จำเป็น) ทำให้ AI ของรถตัดสินใจหยุดเพื่อความปลอดภัย หรืออาจเป็นไปได้ว่าเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์และข้อมูลจราจร (Traffic Data) เกิดขัดข้องจนรถสื่อสารกับศูนย์ควบคุมไม่ได้

ต้นตอของความวุ่นวายครั้งนี้เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ที่สถานีจ่ายไฟย่อยของ Pacific Gas & Electric (PG&E) ส่งผลให้ลูกค้ากว่า 120,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้ส่วนใหญ่จะกู้คืนระบบได้ในช่วงดึก แต่จนถึงเช้าวันอาทิตย์ก็ยังมีอีกกว่า 35,000 รายที่ยังต้องอยู่ท่ามกลางความมืด

เหตุการณ์นี้ถือเป็นจังหวะสะดุดขาตัวเองที่น่าเสียดายสำหรับ Waymo เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งมีข้อมูลหลุดจาก Tiger Global Management ว่าบริษัทกำลังทำยอดได้สวยด้วยจำนวนเที่ยววิ่งถึง 450,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ แต่สุดท้ายเทคโนโลยีระดับโลกก็ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างไฟฟ้าดับ เล่นเอาอนาคตแห่งการเดินทางต้องหยุดชะงักไปชั่วคราวแบบงงๆ