Meta ชนะคดีผูกขาดทางการค้า ศาลชี้หลักฐาน FTC ไม่พอ ไม่ต้องแยก WhatsApp-Instagram

ในที่สุด Meta ก็รอดตัวไปได้แบบหายใจโล่งคอ หลังจากต่อสู้ทางกฎหมายมายาวนาน ล่าสุดศาลได้ตัดสินให้ Meta ชนะคดีต่อต้านการผูกขาด (Antitrust) ที่ยื่นฟ้องโดยคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐฯ หรือ FTC ซึ่งประเด็นหลักที่โดนเพ่งเล็งคือการเข้าซื้อกิจการระดับตำนานอย่าง WhatsApp และ Instagram ว่าเป็นการผูกขาดตลาด Social Networking หรือไม่

ผู้พิพากษา James Boasberg แห่งศาลแขวงสหรัฐฯ ประจำเขตโคลัมเบีย ได้ออกความเห็นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า FTC ล้มเหลวในการพิสูจน์ข้อกล่าวหาในชั้นศาล โดยระบุชัดเจนว่า ถึงแม้ในอดีต Meta อาจจะดูเหมือนมีอำนาจผูกขาด แต่หน่วยงานรัฐต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า "ปัจจุบัน" บริษัทยังคงถือครองอำนาจนั้นอยู่หรือไม่ ซึ่งตรงนี้หลักฐานยังไม่แน่นพอ

ย้อนกลับไปนิดนึง คดีนี้เคยโดนผู้พิพากษา Boasberg ปัดตกไปแล้วรอบหนึ่งเมื่อปี 2021 ด้วยเหตุผลว่าหลักฐานเรื่อง "อำนาจเหนือตลาด" (Market Power) ของ Meta มันเบาบางเกินไป แต่ทาง FTC ก็ไม่ยอมแพ้ กลับไปแก้สำนวนใหม่โดยเติมข้อมูลเรื่องจำนวนผู้ใช้งานและการเข้าซื้อกิจการเข้าไป จนศาลยอมให้ฟ้องต่อได้ในปี 2022 และเริ่มไต่สวนกันจริงจังเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ไฮไลท์สำคัญของการไต่สวนคือการที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ต้องขึ้นให้การด้วยตัวเอง โดยทาง FTC พยายามงัดอีเมลเก่าปี 2008 ของพี่มาร์คที่เคยพิมพ์ไว้ว่า "It is better to buy than compete" (ซื้อเอาดีกว่าไปแข่งด้วย) มาเป็นหลักฐานเด็ดเพื่อชี้เจตนาการกำจัดคู่แข่ง แต่สุดท้ายดูเหมือนวาทะนี้จะไม่สามารถโน้มน้าวศาลให้สั่งแยกบริษัทได้

ชัยชนะครั้งนี้หมายความว่า Meta จะยังคงดำเนินธุรกิจ WhatsApp และ Instagram ต่อไปได้โดยไม่มีใครมาสั่งให้แยกวง ทางฝั่ง Meta ก็รีบออกแถลงการณ์ทันทีว่าคำตัดสินนี้เป็นการยืนยันว่าตลาด Social Networking นั้นมีการแข่งขันที่ดุเดือดอยู่แล้ว และผลิตภัณฑ์ของพวกเขาก็เป็นนวัตกรรมอเมริกันที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ตัดภาพมาที่ฝั่งผู้แพ้ Joe Simonson ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาธารณะของ FTC ออกมาแสดงความผิดหวังอย่างรุนแรง แถมยังทิ้งท้ายแบบเจ็บแสบว่าเกมนี้มันไม่แฟร์ตั้งแต่ต้น เพราะผู้พิพากษา Boasberg กำลังเผชิญกับบทบัญญัติการถอดถอน (Impeachment) จากฝั่งการเมือง ทำให้การตัดสินอาจมีธงอยู่แล้ว เรียกว่าจบศึกในศาลแต่สงครามน้ำลายยังไม่จบง่ายๆ แน่นอน