ดาวเทียมก็มีเน็ตใช้! Muon Space จับมือ SpaceX ติดตั้ง Starlink รับส่งข้อมูลแบบ Real-time

ยุคใหม่ของการสื่อสารในอวกาศมาถึงแล้ว เมื่อ Muon Space สตาร์ทอัพดาวเทียมจาก California ประกาศเป็นลูกค้ารายแรก (ที่ไม่ใช่ SpaceX เอง) ที่จะติดตั้งเทอร์มินัลเลเซอร์ของ Starlink บนดาวเทียมของตัวเอง เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในวงโคจรต่ำของโลก แก้ปัญหาคอขวดที่ดาวเทียมส่วนใหญ่ต้องรอโคจรผ่านสถานีภาคพื้นดินถึงจะส่งข้อมูลได้ ซึ่งบางครั้งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง

Muon Space ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้คร่ำหวอดในวงการอวกาศ มีเป้าหมายเป็น 'One-stop shop' สำหรับใครก็ตามที่มีไอเดียและเงินทุนในการสร้างและใช้งานกลุ่มดาวเทียม โดยบริษัทระดมทุนไปแล้วกว่า US$180 ล้าน (≈ 6.6 พันล้านบาท) หนึ่งในลูกค้ารายสำคัญคือ FireSat โครงการตรวจจับและติดตามไฟป่า ซึ่งการส่งข้อมูลที่รวดเร็วแบบ Real-time ถือเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ดาวเทียมของ Muon สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายเลเซอร์ของ Starlink ในอวกาศได้ตลอดเวลา ทำให้ส่งข้อมูลมหาศาลลงมายังโลกได้แทบจะทันที Pascal Stang, CTO ของ Muon Space เผยว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้รับส่งข้อมูลได้มากกว่าเดิม 10 ถึง 50 เท่า ด้วยความเร็วลิงก์ที่สูงถึง 25Gbps ซึ่งจะลด Latency (ความหน่วง) ของข้อมูลจากเดิมที่เฉลี่ย 20 นาทีสำหรับโครงการ FireSat ให้เหลือใกล้เคียงศูนย์

Greg Smirin ประธานของ Muon ระบุว่าการติดตั้งเทอร์มินัลเลเซอร์เพียงตัวเดียว จะทำให้ดาวเทียมเชื่อมต่อได้ 70-80% ของเวลาทั้งหมด แต่ถ้าติดตั้งสองตัว ก็จะสามารถออนไลน์ได้ 100% เต็ม โดยดาวเทียมที่ติดตั้งเลเซอร์ของ Starlink ดวงแรกมีแผนจะถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรในช่วงต้นปี 2027

ที่น่าสนใจคือ การมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใช้อย่างต่อเนื่องในอวกาศ เปรียบได้กับการเปลี่ยนจากยุค Dial-up มาเป็น Broadband บนโลก ซึ่งจะเปิดประตูสู่โมเดลธุรกิจใหม่ๆ เช่น การสร้าง 'Data Center ในอวกาศ' การประมวลผล AI บนดาวเทียม หรือแม้กระทั่งการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงจากอวกาศแบบสดๆ เหมือนที่เราเคยเห็นจากจรวด Starship ของ SpaceX นั่นเอง...ดูเหมือนว่าอีกหน่อยดาวเทียมคงไม่ต้องรอ 'โทรกลับบ้าน' แล้ว แต่อาจจะแคปหน้าจอส่งไลน์หากันแทน

*หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้คำนวณคือ US$1 ≈ 36.5 บาท