นักวิทย์พบจุดอ่อนสนามแม่เหล็กโลกขยายตัว กระทบดาวเทียมโดยตรง

European Space Agency (ESA) เผยข้อมูลจากภารกิจ Swarm ที่ศึกษามานาน 11 ปี พบว่าจุดอ่อนของสนามแม่เหล็กโลกที่เรียกว่า South Atlantic Anomaly กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้จะไม่กระทบมนุษย์บนพื้นโลก แต่สร้างความเสี่ยงใหญ่หลวงให้กับดาวเทียมและยานอวกาศที่โคจรผ่าน
นักวิทยาศาสตร์จาก European Space Agency (ESA) กำลังจับตาปรากฏการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นกับโลกของเราอย่างใกล้ชิด หลังภารกิจดาวเทียม Swarm ที่ใช้เวลากว่า 11 ปีในการสำรวจ พบว่า ‘จุดอ่อน’ ของสนามแม่เหล็กโลกที่เรียกว่า South Atlantic Anomaly (SAA) กำลังขยายตัวและเคลื่อนที่อย่างน่ากังวล
เจ้าจุดอ่อนที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะถูกค้นพบครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 เมื่อดาวเทียมเริ่มวัดค่ารังสีรอบโลก แต่ข้อมูลล่าสุดจากภารกิจ Swarm ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ของ SAA ไม่ได้อยู่เฉย ๆ มันกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วจากทวีปอเมริกาใต้ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มุ่งหน้าไปยังทวีปแอฟริกา
ที่น่าสนใจคือสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ ซึ่ง ESA อธิบายว่าเกิดจากความผิดปกติลึกลงไปในแก่นโลก บริเวณรอยต่อระหว่างแก่นโลกชั้นนอกที่เป็นของเหลวกับชั้นแมนเทิล (Mantle) ที่เป็นหิน C.C. Finlay หัวหน้าทีมวิจัยอธิบายว่า ปกติแล้วเส้นแรงแม่เหล็กควรจะพุ่งออกจากแก่นโลกในซีกโลกใต้ แต่บริเวณ SAA กลับมีพื้นที่ที่เส้นแรงแม่เหล็ก ‘ไหลย้อนกลับ’ เข้าไปในแก่นโลกแทน ซึ่งการเคลื่อนที่ของพื้นที่ไหลย้อนกลับนี่เองที่ทำให้สนามแม่เหล็กในบริเวณนี้อ่อนกำลังลง
แม้ฟังดูน่ากลัว แต่ข่าวดีคือปรากฏการณ์นี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์บนพื้นโลกโดยตรง เพราะชั้นบรรยากาศยังคงทำหน้าที่ปกป้องเราได้ดี แต่สำหรับ ‘เพื่อนบ้าน’ ที่ลอยอยู่ในวงโคจรต่ำอย่างดาวเทียมและยานอวกาศแล้ว นี่คือฝันร้ายของจริงเลยทีเดียว ยานอวกาศที่โคจรผ่านบริเวณ SAA จะต้องเผชิญกับรังสีในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การทำงานที่ผิดพลาด อุปกรณ์สำคัญเสียหาย หรือแม้กระทั่ง ‘จอดับ’ ไปเลยก็ได้ ตรงนี้ทำให้หน่วยงานอวกาศต้องนำปัจจัยเรื่อง SAA ที่ขยายตัวขึ้น มาพิจารณาในการออกแบบดาวเทียมและยานอวกาศรุ่นใหม่ ๆ อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ภารกิจ Swarm ยังพบว่าสนามแม่เหล็กส่วนที่เคยแข็งแกร่งบริเวณแคนาดาก็เริ่มอ่อนกำลังลง ในขณะที่บริเวณไซบีเรียกลับแข็งแกร่งขึ้นเสียอย่างนั้น
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้