Blue Origin ลั่นพร้อม 'พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน' พา NASA กลับดวงจันทร์ให้เร็วขึ้น

Dave Limp ซีอีโอของ Blue Origin บริษัทอวกาศของ Jeff Bezos ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนว่าพร้อมจะ “พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน” (move heaven and Earth) เพื่อช่วยให้ NASA ส่งมนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์ได้เร็วขึ้น พร้อมแย้มว่าบริษัทมีไอเดียดี ๆ ที่จะช่วยลัดคิวภารกิจนี้ได้อีกด้วย การประกาศนี้มีขึ้นก่อนที่จรวด New Glenn ของบริษัทจะทะยานขึ้นฟ้าเป็นครั้งที่สองเพียง 24 ชั่วโมง

ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ต้องบอกว่าร้อนแรงไม่แพ้เปลวไฟจากเครื่องยนต์จรวด เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้จีนกำลังจะแซงหน้าสหรัฐฯ ในการส่งมนุษย์กลับไปดวงจันทร์ หาก NASA ยังคงยึดตามแผนเดิมของภารกิจ Artemis III ที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2027 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าไม่น่าจะทันการณ์ สถานการณ์นี้ทำให้ Sean Duffy รักษาการผู้บริหารของ NASA ต้องออกมาเปิดการแข่งขันหาผู้พัฒนายานลงจอดบนดวงจันทร์ (Human Lander) รอบใหม่ เพื่อหาทางเลือกที่เร็วกว่าเดิม

แน่นอนว่า Blue Origin ไม่รอช้า Dave Limp เผยว่าบริษัทได้ส่งข้อเสนอเบื้องต้นไปให้ NASA ทันทีหลังจากได้รับการร้องขอ แม้จะยังไม่ขอลงรายละเอียด แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า Blue Origin กำลังซุ่มพัฒนายานลงจอดรุ่นดัดแปลงที่เรียกว่า Mk 1.5 ซึ่งเป็นการนำยานขนส่งสัมภาระ Mk. 1 มาปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ในภารกิจที่ต้องการความเร็วสูง และลดขั้นตอนการเติมเชื้อเพลิงในอวกาศที่ซับซ้อนลง

อย่างไรก็ตาม Limp ย้ำว่าแม้จะช่วยแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เป้าหมายระยะยาวของบริษัทคือการสร้างสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน (Sustainable Architecture) สำหรับการตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์ และใช้เป็นบันไดก้าวไปสู่ระบบสุริยะต่อไป

นอกเรื่องดวงจันทร์ การปล่อยจรวด New Glenn ครั้งที่สองนี้ก็เป็นที่น่าจับตาไม่น้อย เพราะในการปล่อยครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้จรวดจะทำงานได้เกือบสมบูรณ์แบบ แต่ภารกิจนำจรวดท่อนแรกกลับมาลงจอดกลับล้มเหลว เพราะเครื่องยนต์ BE-4 ไม่ยอมจุดระเบิดซ้ำเพื่อชะลอความเร็ว Limp บอกว่าทีมงานได้ปรับปรุงแก้ไขหลายอย่าง และหวังว่าการลงจอดในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ก็ต้องรอดูกันว่า Blue Origin จะทำได้อย่างที่ลั่นวาจาไว้หรือไม่ ทั้งการพา NASA ลัดคิวไปดวงจันทร์ และการนำจรวดกลับมาลงจอดให้สำเร็จ... แค่เรื่องหลังก็ท้าทายแล้ว