ข้ามไปยังเนื้อหา

วิจัยญี่ปุ่นเผย การกินชีสอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมที่ลดลง

สุขภาพ
1 ครั้ง
0 ความเห็น
3 นาที
วิจัยญี่ปุ่นเผย การกินชีสอาจสัมพันธ์กับความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมที่ลดลง
Photo by NastyaSensei on Pexels
By Suphansa Makpayab
TL;DR

งานวิจัยใหม่จากญี่ปุ่นพบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคชีสกับความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมที่ลดลง โดยกลุ่มผู้สูงอายุที่ทานชีสมีความเสี่ยงต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ทานเล็กน้อย คาดว่าเป็นผลจากสารอาหารอย่าง Vitamin K และแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้

แม้ปัจจุบันโลกเราจะยังไม่มียารักษา Dementia (ภาวะสมองเสื่อม) ให้หายขาด แต่เราก็เริ่มเข้าใจปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย อาหารการกิน หรือแม้แต่การเข้าสังคม ล่าสุดมีการศึกษาที่น่าสนใจจากประเทศญี่ปุ่นตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients ที่ชี้ว่า "การกินชีส" อาจเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้

งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ Meiji Co. โดยทีมนักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 7,914 คน โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองฝั่งชัดเจน คือกลุ่มที่ทานชีสอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และกลุ่มที่ไม่ทานเลย

หลังจากติดตามผลสุขภาพเป็นเวลา 3 ปี ตัวเลขที่ออกมาค่อนข้างน่าสนใจ คือในกลุ่มคนที่ทานชีส มีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้น 134 คน (คิดเป็น 3.4%) ในขณะที่กลุ่มคนที่ไม่ทานชีสเลย มีผู้ป่วยเกิดขึ้น 176 คน (คิดเป็น 4.5%) แม้ตัวเลขความแตกต่างจะดูไม่มากนัก คือต่างกันราว ๆ 10-11 คนต่อประชากร 1,000 คน แต่ในทางสถิติและระบาดวิทยาถือว่าเป็นนัยสำคัญทีเดียว

Seungwon Jeong นักวิจัยจาก Niimi University ระบุว่า แม้ผลลัพธ์ต่อบุคคลอาจจะดูเล็กน้อย แต่เมื่อมองในระดับประชากร โดยเฉพาะในประเทศที่มีอัตราการบริโภคชีสต่ำอย่างญี่ปุ่น การค้นพบนี้อาจมีส่วนช่วยในการวางแผนป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ โดยทีมวิจัยได้ทำการตัดตัวแปรอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ และพฤติกรรมการกินอาหารเพื่อสุขภาพออกไปแล้ว ก็ยังพบความเชื่อมโยงนี้อยู่ดี

สาเหตุที่ชีสอาจช่วยเรื่องนี้ได้ นักวิจัยคาดว่าน่าจะมาจากสารอาหารอย่าง Vitamin K และแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้ ซึ่งงานวิจัยในอดีตเคยยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพลำไส้กับสมองมาแล้ว นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นมหมักยังดีต่อสุขภาพหัวใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเสี่ยงสมองเสื่อม

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการศึกษาเชิงสังเกตการณ์ (Observational Study) ที่บอกถึงความสัมพันธ์แต่ยังไม่ได้ยืนยันความเป็นเหตุเป็นผลโดยตรง ใครที่คิดจะโหมกินชีสเพื่อหวังผลเลิศอาจต้องใจเย็น ๆ ก่อน แต่ถ้าชอบทานอยู่แล้วก็นับว่าเป็นข่าวดีให้ยิ้มได้มุมปากเบา ๆ ระหว่างหยิบชีสเข้าปาก

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้