Google เตรียมใช้ Pixel Watch ตรวจจับความดันโลหิตสูงผ่านโครงการวิจัย Fitbit

อยู่ดีๆ Google ก็ผุดไอเดียเก๋ เตรียมใช้ Pixel Watch มาช่วยดูแลสุขภาพคนยุคใหม่ โดยเฉพาะเรื่องความดันโลหิตสูง ที่ตอนนี้เป็นภัยเงียบของใครหลายคน งานนี้ Google ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ เพราะกำลังจะเปิดตัวโครงการวิจัยใหญ่ยักษ์ที่ชื่อว่า "Fitbit Hypertension Study" เพื่อศึกษาและพัฒนาความสามารถในการตรวจจับสัญญาณความดันโลหิตสูงจากนาฬิกาอัจฉริยะคู่ใจของเรานี่แหละครับ

เรื่องราวนี้ถูกค้นพบจาก “APK Insight” (การตรวจสอบโค้ดภายในแอปพลิเคชัน) ในแอปฯ Fitbit for Android เวอร์ชัน 4.53 ซึ่งเผยให้เห็นถึงโครงการวิจัยที่กำลังจะมาถึง จุดประสงค์หลักก็คือการ "พัฒนาการวิจัยสำหรับการคัดกรองความดันโลหิตสูงด้วย Pixel Watch" นั่นเองครับ

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการวิจัยนี้ ก็จะต้องตอบแบบสอบถามกันก่อน จากนั้นผู้ที่ได้รับเลือกก็จะถูกขอให้สวมใส่ Pixel Watch เพื่อเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ในระหว่างการใช้งานปกติ แต่ Google ก็แอบเตือนมานิดนึงนะครับว่าการเข้าร่วมการศึกษานี้ อาจจะทำให้แบตเตอรี่ของ Pixel Watch หมดเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ก็แหงล่ะครับ ทำงานหนักขึ้นนี่นา

ที่น่าสนใจคือ ผู้เข้าร่วมบางส่วนที่ถูกสุ่มเลือก จะได้รับเครื่องวัดความดันโลหิตไปใส่ติดตัวเป็นเวลา 24 ชั่วโมงด้วยครับ ซึ่งตรงนี้ Google ก็ไม่ใจร้ายนะครับ มีค่าตอบแทนให้ US$50 (≈ 1,800 บาท) เป็นค่าเหนื่อยในการใส่และส่งคืนอุปกรณ์ให้ด้วย

ตรงนี้ทำให้หลายฝ่ายหันมามองว่า Google กำลังเดินตามรอยคู่แข่งอย่าง Apple Watch Series 9, 10 และ 11 ที่ตอนนี้มีฟังก์ชันแจ้งเตือนความดันโลหิตสูงใน watchOS 26 แล้ว แต่ต้องบอกก่อนว่า Apple Watch ไม่ได้แสดงค่าความดันโลหิตจริงนะครับ แต่จะตรวจจับรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูงในช่วง 30 วัน โดยใช้เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัลและอัลกอริทึมที่วิเคราะห์การตอบสนองของหลอดเลือดต่อการเต้นของหัวใจ ซึ่ง Apple เองก็เคยทำวิจัยใหญ่กับผู้เข้าร่วมกว่า 100,000 คนมาแล้ว คาดว่า Pixel Watch ของ Google ก็น่าจะทำงานในลักษณะคล้ายๆ กัน และคงไม่ต้องใช้รุ่นล่าสุดเสมอไปครับ

เอาเป็นว่า ใครที่ใช้ Pixel Watch อยู่แล้ว และอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ ก็เตรียมตัวรอการประกาศเข้าร่วมโครงการวิจัยนี้ได้เลยครับ ไม่แน่ว่าในอนาคตนาฬิกาเรือนเล็กๆ บนข้อมือเรา อาจจะกลายเป็นหมอส่วนตัวที่คอยเตือนภัยสุขภาพได้แบบเรียลไทม์ก็เป็นได้นะครับ