ข้ามไปยังเนื้อหา

DeepSeek ปล่อยของแรง V3.2 ท้าชน GPT-5 และ Gemini ฟรี สะเทือนซิลิคอนวัลเลย์

เทคโนโลยี
4 ครั้ง
0 ความเห็น
2 นาที
DeepSeek ปล่อยของแรง V3.2 ท้าชน GPT-5 และ Gemini ฟรี สะเทือนซิลิคอนวัลเลย์
Image Credit: DeepSeek
By Suphansa Makpayab
TL;DR

DeepSeek สตาร์ตอัปจีนเปิดตัวโมเดล AI ใหม่ V3.2 และรุ่น Speciale ที่เคลมว่าแรงเทียบเท่า GPT-5 และ Gemini 3.0 Pro แต่เปิดให้ใช้ฟรีแบบ Open Source ชูเทคโนโลยี Sparse Attention ลดต้นทุนฮวบ พร้อมกวาดเหรียญทองคณิตศาสตร์โอลิมปิก ท้าทายโมเดลธุรกิจโลกตะวันตกเต็มสูบ

วงการ AI ฝั่งอเมริกาถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ เมื่อ DeepSeek สตาร์ตอัปดาวรุ่งจากจีน ประกาศปล่อยโมเดลใหม่ล่าสุด DeepSeek-V3.2 และรุ่นท็อปสายวิเคราะห์อย่าง DeepSeek-V3.2-Speciale ที่ทางบริษัทเคลมว่าประสิทธิภาพเทียบชั้นหรือเผลอๆ จะแซงหน้า GPT-5 ของ OpenAI และ Gemini-3.0-Pro ของ Google ไปแล้ว แต่ทีเด็ดที่สุดไม่ใช่แค่ความฉลาด เพราะพี่จีนเล่นแจกให้ใช้กันฟรีๆ แบบ Open Source ภายใต้สัญญาอนุญาต MIT งานนี้ทำเอาโมเดลเก็บตังค์เจ้าตลาดเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ กันเป็นแถว

ความลับที่ทำให้ DeepSeek วิ่งเร็วแต่กินพลังงานน้อยลงคือเทคโนโลยี DeepSeek Sparse Attention (DSA) อธิบายง่ายๆ คือแทนที่จะประมวลผลเอกสารทั้งดุ้นซ้ำไปมา ระบบจะเลือก "โฟกัส" เฉพาะจุดที่สำคัญเหมือนมีไฮไลต์ส่วนตัว ทำให้ลดต้นทุนการประมวลผลลงได้ถึง 70% โดยการประมวลผล 128,000 tokens (ประมาณหนังสือ 300 หน้า) มีต้นทุนแค่ US$0.70 (≈ 22.66 บาท) เท่านั้น ถูกกว่ารุ่นก่อนที่เคยทำไว้ที่ US$2.40 (≈ 77.71 บาท) แบบคนละเรื่อง

ในมุมความสามารถ รุ่น Speciale กวาดเหรียญทองจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับโลก (IMO 2025) และรายการเขียนโค้ดระดับเทพอย่าง ICPC มาครองเรียบร้อย โดยทำคะแนนแซงหน้า Gemini-3.0-Pro ในหลายการทดสอบ ส่วนฟีเจอร์ใหม่อย่าง "Thinking in tool-use" ก็ช่วยให้ AI คิดวิเคราะห์ต่อเนื่องได้แม้จะต้องสลับไปใช้เครื่องมือภายนอก (เช่น รันโค้ด หรือค้นเว็บ) โดยไม่ลืมบริบทเดิม ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ AI หลายตัวยังแก้ไม่ตก

การขยับตัวครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องสเปก เพราะ DeepSeek พิสูจน์แล้วว่าแม้จะโดนมาตรการกีดกันการส่งออกชิป Nvidia ตัวท็อปจากสหรัฐฯ แต่พวกเขาก็ยังสร้างโมเดลระดับ Frontier ได้ด้วยการรีดประสิทธิภาพซอฟต์แวร์และการปรับแต่งสถาปัตยกรรม การปล่อยของดีให้โหลดฟรีบน Hugging Face ครั้งนี้ อาจเป็นการบีบให้ยักษ์ใหญ่ฝั่งตะวันตกต้องคิดหนัก ว่าจะรักษาโมเดลธุรกิจเก็บค่า API แพงๆ ไว้ได้นานแค่ไหน ในเมื่อของฟรีที่มีประสิทธิภาพระดับเดียวกันวางกองอยู่ตรงหน้าแล้ว (หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 32.38 บาท)

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้