ทฤษฎี Dead Internet: เมื่ออินเทอร์เน็ตอาจ ‘ตาย’ ภายใน 3 ปี เพราะ AI ครองโลก

ทฤษฎีสมคบคิด ‘Dead Internet Theory’ กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง โดยเชื่อว่าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันทุกวันนี้เต็มไปด้วยเนื้อหาจาก AI และ Bot มากกว่ามนุษย์จริง ๆ และอาจทำให้เว็บ ‘ตาย’ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
เคยรู้สึกไหมว่าท่องเว็บแล้วเจอแต่เนื้อหาซ้ำ ๆ บทความแปลก ๆ หรือคอมเมนต์ที่เหมือนหุ่นยนต์มาตอบ? นั่นคือสัญญาณที่ทำให้ทฤษฎีสมคบคิดที่ชื่อว่า ‘Dead Internet Theory’ กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง โดยทฤษฎีนี้เชื่อว่าพื้นที่ส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยมนุษย์อีกต่อไป แต่ถูกแทนที่ด้วยคอนเทนต์ที่สร้างจาก AI และกิจกรรมของ Bot จนเนื้อหาจากคนจริง ๆ กลายเป็นเพียงส่วนน้อย
ที่น่าสนใจคือ ทฤษฎีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับมาดังเป็นพลุแตกเพราะการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Generative AI อย่าง ChatGPT หรือ Midjourney ที่ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถสร้างบทความ รูปภาพ หรือแม้แต่วิดีโอปลอม ๆ ได้ในพริบตา ผลลัพธ์คืออินเทอร์เน็ตที่เต็มไปด้วย ‘ขยะดิจิทัล’ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปั่นยอดวิว ปั่น SEO (การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google) หรือแม้กระทั่งเพื่อชี้นำความคิดเห็นของผู้คน
กลุ่มคนที่เชื่อในทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นสัญญาณหลายอย่าง เช่น บัญชีโซเชียลมีเดียที่โพสต์แต่เนื้อหาไวรัลซ้ำไปซ้ำมา, คอมเมนต์ใน YouTube หรือ Reddit ที่มีรูปแบบคล้ายกันจนน่าขนลุก, หรือบทความข่าวที่อ่านแล้วรู้สึกไร้ซึ่งจิตวิญญาณ ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเรากำลังโต้ตอบอยู่กับโปรแกรม ไม่ใช่คนจริง ๆ
ผลกระทบของ ‘อินเทอร์เน็ตที่ตายแล้ว’ คือการที่เราจะหาบทสนทนาที่มีความหมาย หรือคอนเทนต์ที่สร้างจากประสบการณ์ของมนุษย์จริง ๆ ได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ โลกออนไลน์อาจกลายเป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างโดยอัลกอริทึมเพื่อขายของหรือโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งบางคนถึงกับคาดการณ์ว่าจุดเปลี่ยนนี้อาจมาถึงภายใน 3 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว
แม้ว่า Dead Internet Theory จะยังเป็นแค่ทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่ก็สะท้อนความกังวลที่หลายคนมีต่ออนาคตของโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี...ต่อไปเวลาเจอคอมเมนต์ที่เห็นด้วยกับเราเป๊ะ ๆ อาจจะต้องลองเช็กดูก่อน ว่านั่นคือคนจริง ๆ หรือเป็นแค่ AI ที่ถูกฝึกมาให้อวยเก่งกันแน่
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้