Anthropic เผยวิจัย AI ช่วยจบงานไวขึ้น 80% ดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ โตเท่าตัว

เราได้ยินคำเคลมจากบิ๊กเทคมาตลอดว่า AI จะเข้ามาปฏิวัติการทำงาน แต่คำถามคือ "มันวัดผลได้จริงหรือแค่ราคาคุย?" ล่าสุด Anthropic ผู้สร้าง Claude ไม่ปล่อยให้เราเดาอีกต่อไป โดยเปิดเผยงานวิจัยชิ้นใหม่ที่พยายามตีมูลค่าทางเศรษฐกิจของ AI ออกมาเป็นตัวเลขที่จับต้องได้ จากการวิเคราะห์บทสนทนาจริงกว่า 100,000 รายการ และผลลัพธ์ก็น่าสนใจจนต้องขยี้ตาดู

ทีมวิจัยได้เปรียบเทียบเวลาที่ใช้ทำงาน "ร่วมกับ Claude" เทียบกับ "มนุษย์ทำเองล้วนๆ" ผลปรากฏว่าโดยเฉลี่ยแล้ว AI ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นถึง 80% ซึ่งทาง Anthropic นำตัวเลขนี้ไปคำนวณต่อจนได้ข้อสรุปว่า โมเดล AI ในปัจจุบันมีศักยภาพที่จะดัน Productivity ของแรงงานในสหรัฐฯ ให้โตขึ้นเฉลี่ย 1.8% ต่อปีตลอดทศวรรษหน้า ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการเบิ้ลอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันให้สูงขึ้นเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว

แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่อาชีพไหนก็ยิ้มได้เหมือนกันหมด งานวิจัยชี้ชัดว่าแต่ละสายงานได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน:

• Software Development: คือผู้ชนะในเกมนี้ คาดว่าจะเห็น Productivity พุ่งสูงถึง 19%

• Management: ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการตามมาที่ 6%

• Marketing & Analysis: นักวิเคราะห์การตลาดอยู่ที่ 5%

• Personal Care & Sales: งานที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนทางอารมณ์หรืองานบริการส่วนบุคคล กลับได้รับอานิสงส์น้อยกว่ามาก

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น นักวิเคราะห์การเงินที่มีค่าตัวราว US$58 (≈ 1,880 บาท) ต่อชั่วโมง หากใช้ Claude ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจ จะประหยัดเวลาไปได้มหาศาล และลดต้นทุนค่าแรงไปได้ถึง US$43 (≈ 1,400 บาท) ต่อหนึ่งงาน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมี "ดอกจัน" ตัวโตๆ ว่าเป็นการประเมินจากศักยภาพของ AI ณ วันนี้เท่านั้น (ซึ่งในอนาคตมันต้องเก่งขึ้นอีกแน่) และยังไม่ได้นับรวมเวลาที่มนุษย์ต้องมานั่ง Fact-check ความถูกต้องของ AI อีกที

ที่น่าสนใจคือรายงานนี้ปล่อยออกมาในช่วงที่โลกกำลังตื่นเต้นกับโมเดลใหม่อย่าง Claude Opus 4.5 แม้ตัวเลขคาดการณ์จะดูสวยหรู แต่ในโลกความเป็นจริง เราคงต้องดูกันยาวๆ ว่า AI จะมาช่วยเราทำงาน หรือจะมาแย่งงานเราทำกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ถ้า AI ช่วยให้งานเสร็จไวขึ้นจริง มนุษย์เราก็คงมีเวลาเหลือไปหาเรื่องปวดหัวอื่นมาทำเพิ่มอยู่ดี

(หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน US$1 ≈ 32.38 บาท)