ข้ามไปยังเนื้อหา

งานวิจัยเผย AI Search ชอบอ้างอิงเว็บฯ นอกสายตา ไม่ติด Top 100 ของ Google

เทคโนโลยี
1 ครั้ง
0 ความเห็น
3 นาที
งานวิจัยเผย AI Search ชอบอ้างอิงเว็บฯ นอกสายตา ไม่ติด Top 100 ของ Google
Photo by Firmbee on Pixabay
By Suphansa Makpayab
TL;DR

งานวิจัยจากเยอรมนีพบว่า Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มักจะดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงและไม่ติดอันดับ Top 100 ในการค้นหาแบบดั้งเดิมของ Google ด้วยซ้ำ

มีงานวิจัยชิ้นใหม่ออกมาสะกิดต่อมสงสัยของคนใช้เน็ต เมื่อทีมนักวิจัยจาก Ruhr University ในเยอรมนี และ Max Planck Institute for Software Systems พบว่า Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง Google AI Overviews และ GPT-4o มักจะอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง หรือเป็นเว็บที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งต่างจากการค้นหาแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง

ในการศึกษานี้ นักวิจัยได้เปรียบเทียบผลการค้นหาแบบดั้งเดิมของ Google กับผลลัพธ์ที่ได้จาก AI Search รุ่นใหม่ ๆ ทั้ง Google AI Overviews, Gemini-2.5-Flash และ GPT-4o โดยใช้คำค้นหาหลากหลายประเภท ตั้งแต่คำถามทั่วไป สินค้าที่คนค้นหาเยอะ ไปจนถึงประเด็นการเมืองที่ซับซ้อน

ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะข้อมูลชี้ว่าแหล่งอ้างอิงที่ AI เลือกมานั้น มักจะเป็นเว็บที่อยู่นอกสายตาคนส่วนใหญ่ วัดจากความนิยมของโดเมนโดย Tranco (เครื่องมือติดตามความนิยมของเว็บไซต์) โดยเฉพาะ Gemini ที่มีแนวโน้มจะอ้างอิงเว็บที่ไม่ติดอันดับ Top 1,000 ด้วยซ้ำ ที่พีคไปกว่านั้นคือ 53% ของแหล่งข้อมูลที่ AI Overviews อ้างถึง ไม่ได้ปรากฏใน 10 อันดับแรกของ Google Search แบบปกติ และ 40% ของแหล่งข้อมูลเหล่านั้น ไม่ติดแม้กระทั่งใน Top 100

แต่เดี๋ยวก่อน... การอ้างอิงเว็บฯ นอกกระแสไม่ได้แปลว่าผลลัพธ์มัน "แย่" เสมอไปนะ เพราะนักวิจัยพบว่า AI Search มีแนวโน้มจะอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เป็นองค์กรหรือสารานุกรมมากกว่าโซเชียลมีเดีย และยังครอบคลุม "แนวคิด" (Concepts) ได้หลากหลายไม่แพ้กัน เพียงแต่ AI มักจะ "บีบอัด" ข้อมูล ทำให้บางครั้งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือมุมมองที่คลุมเครืออาจหายไประหว่างทาง

อีกหนึ่งดาบสองคมคือการที่ AI สามารถดึง "ความรู้ภายใน" ที่ถูกฝึกฝนมาใช้ร่วมกับข้อมูลจากเว็บได้ ซึ่งบางครั้ง GPT-4o ก็ตอบคำถามโดยไม่อ้างอิงเว็บเลย แต่ข้อจำกัดคือเมื่อเจอคำถามที่ต้องการข้อมูลสดใหม่แบบเรียลไทม์ AI กลับไปไม่เป็น ตอบกลับมาแค่ว่า "ขอข้อมูลเพิ่มเติม" แทนที่จะไปค้นหาเรื่องที่กำลังเป็นกระแสให้

สุดท้ายแล้ว งานวิจัยนี้ไม่ได้ฟันธงว่าใครดีกว่าใคร แต่ชี้ให้เห็นว่าโลกของการค้นหากำลังเปลี่ยนไป และเราอาจต้องมีวิธีประเมินผลแบบใหม่ที่มองทั้งความหลากหลายของแหล่งข้อมูลและความสามารถในการสังเคราะห์ข้อมูลของ AI ด้วย... งานนี้คนทำ SEO อาจต้องเริ่มคิดกลยุทธ์ใหม่กันแล้วล่ะมั้ง ว่าจะทำยังไงให้ AI หันมามองเว็บฯ ของตัวเองบ้าง

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้