ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! จีนต่อสายตรง NASA เลี่ยงดาวเทียมชนกันกลางอวกาศ

เกิดเหตุการณ์ที่นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความร่วมมือด้านอวกาศ เมื่อองค์การอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA) ได้ติดต่อประสานงานกับ NASA โดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดาวเทียมเกือบชนกัน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการจัดการจราจรในอวกาศที่แออัดขึ้นทุกวัน

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย Alvin Drew ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนทางอวกาศของ NASA ในงานประชุม International Astronautical Congress (IAC) ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย โดยเขาเล่าว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หาก NASA ตรวจพบความเป็นไปได้ที่ดาวเทียมจะเข้าใกล้กันในระยะอันตราย (Conjunction) NASA จะเป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาจีนว่า “เราคิดว่าเรากำลังจะชนคุณนะ อยู่นิ่ง ๆ เดี๋ยวเราจะหลบให้เอง”

แต่แล้วจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น Drew เล่าด้วยความตื่นเต้นว่า “เมื่อวันก่อน เราถึงกับฉลองกันเล็กน้อย เพราะเป็นครั้งแรกที่ CNSA ติดต่อมาหาเราก่อน พร้อมกับบอกว่า ‘เราตรวจพบว่าดาวเทียมของเราอาจจะชนกัน เราแนะนำให้คุณอยู่นิ่ง ๆ เดี๋ยวเราจะหลบหลีกให้เอง’ และนี่คือครั้งแรกที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”

การเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะโครงการ Starlink ของ SpaceX และจีนเองที่มีโครงการ Guowang และ Thousand Sails ต่างก็เร่งส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดการชนกันและสร้างขยะอวกาศเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ที่น่าสนใจคือ การกระทำของจีนยังบ่งชี้ว่าเทคโนโลยีการเฝ้าระวังสถานการณ์ในอวกาศ (Space Situational Awareness) ของจีนนั้นพัฒนาไปถึงระดับที่สามารถตรวจจับและประสานงานกับผู้ควบคุมดาวเทียมรายอื่นได้แล้ว

ปกติแล้วการติดต่อระหว่าง NASA และหน่วยงานรัฐของจีนนั้นมีข้อจำกัดจากกฎหมายที่เรียกว่า Wolf Amendment ซึ่งขัดขวางความร่วมมือทวิภาคีส่วนใหญ่ แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าเพื่อความปลอดภัยในอวกาศ ทั้งสองฝ่ายก็พร้อมจะหาทางพูดคุยกันได้ ดูเหมือนว่าท้องฟ้าที่แออัดขึ้นทุกวัน จะบีบให้คู่แข่งต้องหันมาคุยกันดี ๆ บ้าง...อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้สมบัติล้ำค่าของตัวเองกลายเป็นขยะอวกาศล่ะนะ