เตรียมดูแสงเหนือ! ดวงอาทิตย์ปะทุใหญ่ 2 ครั้งซ้อน ส่งพายุสุริยะมุ่งหน้าสู่โลก

สัปดาห์นี้ดูเหมือนดวงอาทิตย์จะคึกคักเป็นพิเศษ เมื่อเกิดการปะทุรุนแรงของเปลวสุริยะ (Solar Flare) ระดับ X-class ถึง 2 ครั้งซ้อนจากบริเวณจุดดับ AR4274 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน และครั้งที่สองตามมาติด ๆ ในช่วงเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งการปะทุทั้งสองครั้งนี้ได้ปลดปล่อยมวลโคโรนา (Coronal Mass Ejection หรือ CME) ซึ่งก็คือกลุ่มก้อนพลาสมาขนาดมหึมา พุ่งตรงมายังโลกของเรา

การปะทุครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน เป็น Flare ระดับ X1.7 ที่รุนแรงพอจะทำให้เกิดคลื่นวิทยุดับในระดับ R3 (Strong) และส่ง CME ลูกแรกตามมา ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงโลกในช่วงวันที่ 11-12 พฤศจิกายน แถมยังตามหลัง CME อีกลูกที่ปะทุออกมาก่อนหน้าในวันที่ 7 พฤศcิกายน ซึ่งอาจจะแค่ 'เฉี่ยว' โลกไปในวันที่ 10 พฤศจิกายน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้อนกันนี้ ทำให้ NOAA (หน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ) ต้องออกประกาศเฝ้าระวังพายุแม่เหล็กโลกในระดับ G1 (เล็กน้อย) สำหรับวันที่ 10 พฤศจิกายน และยกระดับเป็น G2 (ปานกลาง) ในวันที่ 11-12 พฤศจิกายน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อดาวเทียมและระบบไฟฟ้าได้ แต่ในข่าวร้ายก็มีข่าวดี เพราะมันอาจทำให้เราได้เห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora) ที่สวยงามตระการตาในแถบประเทศละติจูดสูง ๆ เช่น ตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาและยุโรป

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น! เพราะการปะทุครั้งที่สองในเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งเป็น Flare ระดับ X1.2 ก็ได้ส่ง CME อีกลูกตามมาสมทบด้วย ตอนนี้นักพยากรณ์อากาศอวกาศกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยใช้ข้อมูลจากยาน SOHO และ STEREO ของ NASA เพื่อวิเคราะห์ความเร็วและทิศทางของมัน ซึ่งแบบจำลองเบื้องต้นชี้ว่าอาจจะพุ่งชนโลกเต็ม ๆ ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้

สำหรับ X-class Flare นั้น ถือเป็นการปะทุของพลังงานบนดวงอาทิตย์ที่รุนแรงที่สุด ตัวเลขที่ตามหลังตัว X จะบอกถึงความแรงของมัน เช่น X2 ก็จะแรงกว่า X1 ถึงสองเท่า งานนี้ก็ต้องรอดูกันว่า 'ของขวัญ' ชุดใหญ่จากดวงอาทิตย์จะสร้างความปั่นป่วนหรือความสวยงามให้กับโลกของเรามากกว่ากัน