ข้ามไปยังเนื้อหา

WHO เผย วัณโรคยังครองแชมป์โรคติดเชื้อสุดโหด คร่าชีวิต 1.23 ล้านคนปีที่แล้ว

สุขภาพ
1 ครั้ง
0 ความเห็น
3 นาที
WHO เผย วัณโรคยังครองแชมป์โรคติดเชื้อสุดโหด คร่าชีวิต 1.23 ล้านคนปีที่แล้ว
Photo by padrinan on Pixabay
By Suphansa Makpayab
TL;DR

องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า วัณโรคยังคงเป็นโรคติดเชื้อที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก โดยในปี 2024 มีผู้เสียชีวิตถึง 1.23 ล้านคน แม้ตัวเลขจะลดลงเล็กน้อย แต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเพราะขาดแคลนงบประมาณอย่างหนัก

องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกรายงานประจำปีฉบับล่าสุด ตอกย้ำสถานะของวัณโรค (Tuberculosis หรือ TB) ว่ายังคงเป็น 'นักฆ่าโรคติดเชื้อ' อันดับหนึ่งของโลก โดยในปี 2024 ที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 1.23 ล้านคน และมีผู้ป่วยรายใหม่ราว 10.7 ล้านคนทั่วโลก แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจะลดลงเล็กน้อย แต่ WHO ก็เตือนว่าความคืบหน้าที่ได้มานั้นยังเปราะบางเหลือเกิน

Tereza Kasaeva หัวหน้าแผนก HIV, TB และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของ WHO ชี้ว่านี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การระบาดของ Covid-19 ที่ตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากวัณโรคลดลงพร้อมกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริการทางการแพทย์เริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่เธอก็ย้ำว่าการตัดงบประมาณยังคงเป็นภัยคุกคามที่อาจทำให้ความพยายามที่ผ่านมาสูญเปล่า

เจาะลึกลงไปในตัวเลข จะพบว่า 8 ประเทศแบกรับภาระผู้ป่วยวัณโรคถึง 2 ใน 3 ของโลก ได้แก่ อินเดีย (25%), อินโดนีเซีย (10%), ฟิลิปปินส์ (6.8%), จีน (6.5%), ปากีสถาน (6.3%), ไนจีเรีย (4.8%), คองโก (3.9%) และบังกลาเทศ (3.6%) โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลัก 5 ประการที่ทำให้โรคนี้ยังระบาดหนัก คือ ภาวะทุพโภชนาการ, การติดเชื้อ HIV, โรคเบาหวาน, การสูบบุหรี่ และการติดสุรา

ปัญหาใหญ่ที่น่าปวดหัวคือเรื่อง 'เงิน' ครับ เพราะงบประมาณสำหรับต่อสู้กับวัณโรคหยุดนิ่งมาตั้งแต่ปี 2020 โดยปีที่แล้วมีเงินทุนสำหรับป้องกัน วินิจฉัย และรักษาเพียง 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปี 2027 อย่างลิบลับ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวร้ายก็ยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง ในปี 2024 มีผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและเข้าถึงการรักษาสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8.3 ล้านคน และอัตราความสำเร็จในการรักษาก็เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมที่น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนทดลอง 18 ตัวที่กำลังทดสอบในมนุษย์ (6 ตัวอยู่ในเฟส 3 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายก่อนอนุมัติ) และเครื่องมือวินิจฉัยที่ใช้ AI เข้ามาช่วยให้ตรวจจับโรคได้เร็วและแม่นยำขึ้น

Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "ความจริงที่ว่าวัณโรคยังคงคร่าชีวิตผู้คนกว่าล้านคนทุกปี ทั้งที่เป็นโรคที่ป้องกันและรักษาได้ เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลอย่างยิ่ง" ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่านวัตกรรมใหม่ๆ จะมาทันเวลา ก่อนที่ 'นักฆ่าโบราณ' ตัวนี้จะสร้างความสูญเสียไปมากกว่านี้หรือไม่

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้