Apple โชว์งานวิจัยใหม่ ใช้ AI เปลี่ยนเซนเซอร์เดิมให้วัดค่าหัวใจเชิงลึกได้

ดูเหมือนว่า Apple จะไม่ได้หยุดอยู่แค่การนับก้าวเดินหรือวัดการนอนหลับอีกต่อไป เมื่อทีมนักวิจัยของบริษัทได้เผยแพร่เอกสารทางวิชาการชิ้นใหม่ที่น่าสนใจมาก โดยระบุถึงความเป็นไปได้ในการใช้ AI เข้ามาช่วยยกระดับเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล (Optical Heart Sensor) หรือที่เราเรียกกันทางเทคนิคว่า Photoplethysmography (PPG) ให้สามารถอ่านค่าสุขภาพที่ซับซ้อนและลึกซึ้งกว่าเดิมได้

หัวใจสำคัญของงานวิจัยชิ้นนี้คือสิ่งที่เรียกว่า Hybrid Modeling ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างแบบจำลองทางกายภาพและการใช้ AI เรียนรู้ข้อมูล โดยทีมวิจัยพบว่าพวกเขาสามารถนำสัญญาณแสงจากเซนเซอร์ PPG (แบบเดียวกับที่อยู่หลัง Apple Watch) มาผ่านกระบวนการประมวลผลเพื่อจำลองเป็นกราฟความดันโลหิต (Arterial Pressure Waveforms - APW) ได้ ซึ่งปกติการจะได้ค่าเหล่านี้ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยุ่งยากกว่านี้มาก

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าจับตามองคือ เมื่อ AI สามารถแปลงสัญญาณแสงเป็นกราฟความดันเลือดได้แล้ว มันก็สามารถนำไปคำนวณหาค่าทางชีวภาพที่สำคัญอย่าง Stroke Volume (ปริมาณเลือดที่สูบฉีดออกจากหัวใจต่อการบีบตัวหนึ่งครั้ง) และ Cardiac Output (ปริมาณเลือดที่หัวใจสูบฉีดในหนึ่งนาที) ได้ ซึ่งผลการทดสอบกับข้อมูลผู้ป่วย 128 รายพบว่า แม้จะยังระบุค่าตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่ระบบสามารถติดตาม "แนวโน้ม" (Trends) ของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแม่นยำ

แน่นอนว่านี่ยังเป็นเพียงงานวิจัยในระดับ Foundational Research บนบล็อก Machine Learning ของ Apple และยังไม่มีการยืนยันว่าจะถูกนำมาใส่ใน Apple Watch รุ่นถัดไปหรือไม่ แต่การที่ยักษ์ใหญ่แห่งคูเปอร์ติโนพยายามหาทางวัดค่า Hemodynamic (พลศาสตร์การไหลเวียนเลือด) ด้วยวิธี Non-invasive แบบนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า อนาคตของ Wearable Device กำลังจะขยับจากการเป็นแค่ Gadget ออกกำลังกาย ไปสู่เครื่องมือแพทย์ติดข้อมืออย่างเต็มตัวครับ