บัลลังก์ NVIDIA สั่นคลอน? เมื่อยักษ์ใหญ่เทคฯ หันมาปั้นชิป AI ใช้เอง

ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Wccftech, Rahul Sen Sharma ประธานและ Co-CEO ของ Indxx ได้ฉายภาพการแข่งขันในสมรภูมิชิป AI ที่กำลังร้อนระอุ แม้ปัจจุบัน NVIDIA จะยังคงเป็นเจ้าตลาดแบบไร้เทียมทาน ด้วยส่วนแบ่งที่คาดว่าจะสูงถึง 86% ในปี 2025 แต่บัลลังก์นี้ก็เริ่มมีสัญญาณสั่นคลอนเล็กน้อย เมื่อเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหันมาซุ่มพัฒนาชิปของตัวเอง

ความสำเร็จของ NVIDIA ไม่ได้มาจากแค่ Hardware อย่าง GPU ซีรีส์ Blackwell ที่ทรงพลังเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญคือ Ecosystem ของ Software อย่าง CUDA ที่กลายเป็นมาตรฐานสำหรับนักพัฒนา AI ทั่วโลก ทำให้ใครๆ ก็ต้องวิ่งเข้าหา แต่จุดเปลี่ยนเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเหล่า Hyperscaler (ผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่) อย่าง Google, Amazon, Meta หรือแม้แต่ OpenAI เริ่มมองว่าการพึ่งพา NVIDIA เพียงเจ้าเดียวมีราคาที่ต้องจ่ายสูง ทั้งในแง่ของตัวเงินและปัญหา Supply ที่อาจขาดแคลนได้ทุกเมื่อ

ตรงนี้ทำให้เทรนด์การพัฒนาชิป ASIC (Application-Specific Integrated Circuits) หรือชิปที่ออกแบบมาเพื่องานเฉพาะทางแบบ Custom Made ได้รับความนิยมขึ้นมาทันที เราจึงได้เห็น Google มีชิป TPU, Amazon มี Trainium และ Inferentia, และ Meta ก็มีโปรเจกต์ซิลิคอนของตัวเอง ที่น่าจับตาคือการจับมือกันระหว่าง OpenAI และ Broadcom เพื่อพัฒนาชิป ASIC สำหรับงาน Inference โดยเฉพาะ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้ Broadcom กลายเป็นม้ามืดที่น่ากลัวในสนามแข่งนี้ทันที ด้วยรายได้จากฝั่ง AI ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

Rahul ชี้ว่าอนาคตของ ASIC นั้นสดใส เพราะมันถูกสร้างมาเพื่องานเฉพาะด้าน ทำให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดีกว่า ลดต้นทุนการดำเนินงานใน Data Center ได้อย่างมหาศาล ซึ่งเทรนด์นี้จะส่งผลดีต่อผู้เล่นหลายกลุ่มในตลาด ไม่ว่าจะเป็น:

• Hyperscalers: อย่าง Amazon, Google, Microsoft, Meta ที่ได้ชิปที่ออกแบบมาตรงกับงาน ลดการพึ่งพาภายนอก
• ผู้ผลิตชิปและโรงหล่อ: เช่น TSMC, Samsung Foundry, Broadcom, และ Marvell ที่รับออเดอร์ผลิตชิปเหล่านี้
• บริษัทใน Ecosystem: ตั้งแต่บริษัทออกแบบ (Synopsys, Cadence) ไปจนถึงผู้ผลิต Memory และระบบระบายความร้อน (Vertiv, Schneider Electric)

และเมื่อพูดถึงอนาคตอันใกล้ NVIDIA เองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เตรียมส่ง GPU รุ่นถัดไปอย่าง Rubin และ Rubin Ultra ที่แรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งแรงก็ยิ่งร้อน ทำให้บริษัทที่ทำระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Cooling) อย่าง CoolIT Systems และ Asetek เตรียมรับทรัพย์กันถ้วนหน้า... ดูเหมือนว่าศึกชิงบัลลังก์ AI ครั้งนี้ ไม่ได้ร้อนแรงแค่ในสนามแข่งชิป แต่ลามไปถึงระบบระบายความร้อนใน Data Center กันเลยทีเดียว