แอปไหนสูบแบตฯ เตรียมตัว! Google จ่อขึ้นป้ายเตือนบน Play Store มี.ค. 2026

Google ประกาศมาตรการใหม่ที่ทำเอานักพัฒนาแอปต้องหันมามอง เมื่อจับมือกับ Samsung เปิดตัวเกณฑ์วัดผลที่ชื่อว่า “Excessive partial wake locks” เพื่อจัดการกับแอปที่กินแบตเตอรี่มือถืออย่างหนักหน่วง โดยจะเริ่มขึ้นป้ายเตือนบน Play Store ให้ผู้ใช้เห็นกันจะ ๆ ไปเลย

สำหรับใครที่สงสัยว่า Wake lock คืออะไร มันคือคำสั่งที่แอปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เข้าสู่โหมด Sleep หรือโหมดพักเครื่อง ทำให้แอปสามารถทำงานเบื้องหลังได้แม้หน้าจอจะดับอยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นตัวการชั้นดีที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เกณฑ์วัดผลใหม่นี้เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเชิงลึกด้านประสบการณ์ผู้ใช้และการใช้แบตเตอรี่ของ Samsung มารวมกับข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Android โดยตรง

ที่น่าสนใจคือเกณฑ์ที่ Google ตั้งไว้ หรือที่เรียกว่า “Bad behavior threshold” (เกณฑ์พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม) นั้นชัดเจนมาก โดยจะถือว่าแอปมีพฤติกรรมที่ผิดปกติก็ต่อเมื่อ “5% ของช่วงเวลาการใช้งาน (User sessions) ทั้งหมดในรอบ 28 วัน มีการใช้ Wake lock เกิน 2 ชั่วโมงสะสมภายใน 24 ชั่วโมง” แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับ Wake lock ที่จำเป็นจริง ๆ เช่น การเล่นเพลง หรือการโอนถ่ายข้อมูลที่ผู้ใช้เป็นคนสั่งเอง

แล้วแอปที่เข้าข่ายจะเจออะไรบ้าง? อย่างแรกเลยคือจะถูกลดการมองเห็นในพื้นที่แนะนำแอปเด่น ๆ (Prominent discovery surfaces) บน Play Store และที่เด็ดกว่านั้นคือ หน้าดาวน์โหลดแอปอาจมีป้ายแดงแปะหราพร้อมข้อความเตือนว่า “This app may use more battery than expected due to high background activity” (แอปนี้อาจใช้แบตเตอรี่มากกว่าที่คาดไว้เนื่องจากการทำงานเบื้องหลังที่สูง) เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจก่อนติดตั้ง

มาตรการทั้งหมดนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2026 งานนี้นักพัฒนาคงต้องกลับไปเช็กโค้ดกันให้วุ่น ส่วนผู้ใช้งานอย่างเราก็ยิ้มมุมปากรอได้เลย เพราะมือถืออาจจะแบตอึดขึ้นโดยไม่รู้ตัว