ChatGPT เปิดฟีเจอร์ Group Chats ให้ผู้ใช้ทุกคนทั่วโลก คุยพร้อมกันได้สูงสุด 20 คน

OpenAI ขยายฟีเจอร์ Group Chats ให้ผู้ใช้ทุกกลุ่มทั่วโลก ดึงเพื่อนเข้ากลุ่มได้สูงสุด 20 คน ใช้โมเดล ChatGPT-5.1 Auto ที่ฉลาดขึ้น รู้จังหวะการตอบ ไม่แทรกบทสนทนาถ้าไม่จำเป็น พร้อมระบบความปลอดภัยต้องกดรับเชิญเท่านั้นถึงจะเข้ากลุ่มได้
OpenAI ไม่เคยหยุดหาช่องทางใหม่ ๆ ให้แชทบอทเข้าไปมีบทบาท ล่าสุดหลังจากทดสอบฟีเจอร์ Group Chats และได้ผลตอบรับดีเกินคาด ก็ตัดสินใจประกาศขยายฟีเจอร์นี้ให้กับผู้ใช้ที่ล็อกอินทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสายฟรี (Free), สายเปย์ (Plus, Pro) หรือแม้แต่ผู้ใช้ ChatGPT Go ทั่วโลก ภายในไม่กี่วันนี้
ฟีเจอร์นี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็นตัวช่วยในการทำงานร่วมกัน หรือจะเอาไว้ช่วยวางแผนจัดงานอีเวนต์ใหญ่ ๆ ก็ได้ โดยสามารถดึงเพื่อนเข้ากลุ่มได้สูงสุดถึง 20 คน ที่น่าสนใจคือข้อความที่คุยกันเองระหว่างมนุษย์ในกลุ่มจะไม่ถูกนับรวมใน Rate Limit ของการใช้งาน จะเริ่มนับโควตาเฉพาะตอนที่ ChatGPT ตอบกลับมาเท่านั้น
เบื้องหลังความฉลาดของระบบนี้คือโมเดล ChatGPT-5.1 Auto ที่ทาง OpenAI เคลมว่าได้สอน "มารยาททางสังคม" มาใหม่สำหรับการคุยแบบกลุ่มโดยเฉพาะ มันจะอ่านบรรยากาศ (Flow) ของบทสนทนา รู้ว่าจังหวะไหนควรเงียบ หรือจังหวะไหนควรแทรกขึ้นมาแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าอยากเรียกใช้แบบเจาะจง แค่พิมพ์คำว่า "ChatGPT" ลงไปในข้อความ มันก็จะโผล่มาตอบทันที นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า Custom Instructions ให้มันมีบุคลิกหรือโทนเสียงตามที่ต้องการได้ทั้งแชท และมันยังส่ง Emoji รีแอคชั่นข้อความได้อีกด้วย
ในมุมของความเป็นส่วนตัว Group Chats จะไม่ดึงความจำ (Memory) จากแชทส่วนตัวเดิมมาใช้ และจะไม่สร้างความจำใหม่จากบทสนทนาในกลุ่ม แม้ OpenAI จะเปรยว่าอนาคตอาจจะมีตัวเลือกให้เปิดใช้ฟีเจอร์นี้ก็ตาม ที่สำคัญคือไม่ต้องกลัวโดนลากเข้ากลุ่มมั่วซั่ว เพราะระบบบังคับว่าต้องกดรับคำเชิญ (Invitation) ก่อนเท่านั้นถึงจะเข้าได้ รวมถึงมีมาตรการความปลอดภัยพิเศษที่จะลดเนื้อหาล่อแหลมสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในกลุ่มด้วย
OpenAI ย้ำว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำให้ ChatGPT กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการทำงานร่วมกัน เรียกว่าต่อไปนี้เวลาเถียงกันในกลุ่มเพื่อนว่าข้อมูลไหนจริงไม่จริง ก็ให้ AI ตัดสินไปเลย จะได้ไม่ต้องตีกันเองให้เสียเวลา
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้