ส่องเทรนด์มือถือเรือธง Android ปี 2026 จะมีอะไรให้ว้าวบ้าง?

ปี 2026 วงการมือถือ Android เรือธงเตรียมคึกคักอีกครั้ง จากการเปิดตัวชิปเซตรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 และ Dimensity 9500 ที่จะมาพร้อมฟีเจอร์เด็ด ๆ ทั้งแบตเตอรี่ที่ใหญ่สะใจ, การถ่ายวิดีโอระดับโปร, และ AI ที่ฉลาดขึ้นไปอีกขั้น
Android Authority ได้ออกมาคาดการณ์เทรนด์มือถือเรือธง Android ที่จะมาถึงในปี 2026 ซึ่งดูเหมือนว่าจะดุเดือดไม่แพ้ปีนี้เลย โดยมีหัวใจหลักเป็นชิปเซตเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 และ Dimensity 9500 ที่เป็นตัวจุดประกายฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้เราได้ตื่นเต้นกัน
เทรนด์ที่เห็นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องแบตเตอรี่ ที่แข่งกันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ Silicon-carbon ที่ทำให้ยัดความจุมาได้แบบจุก ๆ จนค่ายจีนหลายเจ้าวิ่งนำหน้าไปไกลแล้ว ตัวอย่างเช่น:
Xiaomi 17 Series: แบตเตอรี่ 6,300mAh ถึง 7,500mAh
OnePlus 15: ลือกันว่าอาจมาพร้อมแบต 7,800mAh
OPPO Find X9 Pro: อาจมีความจุถึง 7,550mAh
งานนี้ก็ต้องยิ้มมุมปากเบา ๆ ให้กับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung, Google และ Apple ที่ยังคงนิ่ง ๆ ไม่ขยับตามเทรนด์นี้สักที ไม่รู้ว่ารออะไรกันอยู่
ด้านการถ่ายวิดีโอก็ยกระดับไปอีกขั้น ฝั่ง Snapdragon 8 Elite Gen 5 มาพร้อม Codec ใหม่อย่าง APV (Advanced Professional Video) ที่เคลมว่าให้คุณภาพวิดีโอระดับ Lossless แต่ยังยืดหยุ่นพอให้ไปปรับสีแต่งแสงต่อได้สบาย ๆ ส่วนค่าย MediaTek ก็ไม่น้อยหน้า ชิป Dimensity 9500 รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K/120fps พร้อม Dolby Vision เป็นครั้งแรกบน Android แถมยังขิงใส่ iPhone ด้วยโหมด Portrait Video ที่ 4K/60fps อีกด้วย
ส่วนเรื่องกล้อง 200MP ที่เคยเป็นแค่ Gimmick ถ่ายจริงแล้วภาพไม่สวยเท่าไหร่ ก็กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อ OPPO ยืนยันว่า Find X9 Pro จะใช้เทคโนโลยี “Multi-frame fusion” ทำให้การถ่ายภาพความละเอียด 200MP มีคุณภาพดีขึ้นจริง ๆ สักที
เรื่องของ AI ก็เป็นอีกสมรภูมิที่เดือดไม่แพ้กัน ชิปเซตรุ่นใหม่จะสามารถรัน AI Model ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นบนตัวเครื่องได้โดยตรง ทำให้ฟีเจอร์ AI ต่าง ๆ ซับซ้อนและเก่งขึ้น ที่น่าสนใจคือการมาของ SME2 (Scalable Matrix Extension) ในชิป MediaTek ซึ่งเป็นชุดคำสั่งพิเศษบน CPU ที่ช่วยเร่งความเร็วให้แอป AI ที่ไม่ได้ถูกปรับแต่งมาเพื่อ NPU (หน่วยประมวลผล AI) โดยเฉพาะ ทำให้ทำงานได้เร็วและประหยัดพลังงานขึ้นมาก ตรงนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วไปเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เล็ก ๆ แต่น่าสนใจ อย่างหน้าจอที่สามารถลดความสว่างลงได้ถึง 1-nit เหมาะสำหรับสายอ่านหนังสือตอนกลางคืนไม่ให้รบกวนคนข้าง ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ที่ช่วยให้เล่นเกมได้นานขึ้นโดยกินแบตน้อยลง ทั้งฝั่ง Snapdragon และ MediaTek ต่างก็เคลมว่าประหยัดพลังงานขึ้นกว่าเดิม
ดูทรงแล้วปี 2026 คงเป็นปีที่มือถือเรือธงจะไม่ได้แข่งกันแค่ตัวเลขสเปก แต่จะเน้นไปที่ประสบการณ์ใช้งานจริงมากขึ้น ก็ต้องรอดูกันว่าพอเปิดตัวจริง ๆ จะว้าวได้อย่างที่คุยไว้หรือเปล่า
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้