ข้ามไปยังเนื้อหา

รายงานเผย ปี 2025 AI ทำคนตกงานกว่า 55,000 ตำแหน่ง กระทบเด็กจบใหม่หนักสุด

เทคโนโลยี
1 ครั้ง
0 ความเห็น
2 นาที
รายงานเผย ปี 2025 AI ทำคนตกงานกว่า 55,000 ตำแหน่ง กระทบเด็กจบใหม่หนักสุด
Photo by wal_172619 on Pixabay
By Suphansa Makpayab
TL;DR

ปี 2025 กลายเป็นปีแห่งฝันร้ายของคนทำงานในสหรัฐฯ เมื่อยอดเลิกจ้างพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ยุคโควิด โดยมี AI เป็นจำเลยสำคัญที่ทำให้ตำแหน่งงานหายไปกว่า 55,000 อัตรา โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนที่ AI กินสัดส่วนสาเหตุการเลิกจ้างถึง 9% ที่น่าห่วงคือผลกระทบนี้ลามไปถึงเด็กจบใหม่ที่เจอกำแพง Hiring Freeze เพราะบริษัทรอดูท่าที AI ก่อนจ้างคนเพิ่ม

ปี 2025 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่โหดร้ายสำหรับมนุษย์เงินเดือนในสหรัฐฯ และถ้าจะหาจำเลยสักคนมารับผิดชอบ นอกจากสภาพเศรษฐกิจแล้ว "AI" ก็ต้องรับไปเต็มๆ งานนี้ไม่ใช่แค่ความกังวลลอยๆ หรือข่าวลือในโซเชียลมีเดียอีกต่อไป เพราะมีตัวเลขยืนยันชัดเจนออกมาแล้วว่า ปัญญาประดิษฐ์มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปลดพนักงานจำนวนมหาศาลในปีที่ผ่านมา

ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Challenger, Gray & Christmas เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า ในปี 2025 มีการเลิกจ้างงานในสหรัฐฯ รวมทั้งหมดสูงถึง 1.17 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 แต่จุดที่น่าจับตามองคือ มีเกือบ 55,000 ตำแหน่งที่ระบุสาเหตุชัดเจนว่า "มาจาก AI" โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียว มีคนต้องเก็บของกลับบ้านเพราะ AI ถึง 6,000 คน หรือคิดเป็นประมาณ 9% ของยอดเลิกจ้างทั้งหมดในเดือนนั้น

สิ่งที่น่ากังวลกว่าตัวเลขการปลดคน คือผลกระทบที่ลามไปถึง "เด็กจบใหม่" หรือกลุ่ม Entry Level รายงานจาก Inc. ชี้ให้เห็นประเด็นที่น่าสนใจว่า หลายบริษัทเริ่มใช้มาตรการ "Hiring Freeze" หรือแช่แข็งการจ้างงานใหม่ ไม่ใช่เพราะ AI ทำงานแทนได้ทั้งหมดแล้ว แต่เป็นเพราะผู้บริหารเกิดความลังเลและอยากรอดูทิศทาง (Optionality) ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปทางไหน ทำให้บริษัทเลือกที่จะไม่รับคนเพิ่มไว้ก่อน ซึ่งกลายเป็นกำแพงใหญ่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน

แม้ทาง Fortune จะเคยออกมาเบรกกระแสความตื่นตระหนกว่า การที่ AI จะมาแย่งงานโดยเฉพาะในสายการเงินนั้น ส่วนใหญ่ยังเป็นแค่ "ราคาคุย" (Smoke and Mirrors) ในตอนนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปี 2025 เป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับแรงงาน และ AI ก็ได้ก้าวเข้ามามีเก้าอี้ในห้องประชุม HR อย่างเป็นทางการแล้ว ไม่ว่าจะในฐานะเครื่องมือช่วยทำงาน หรือข้ออ้างในการลดต้นทุนของบริษัทก็ตาม

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้