AI ครอง IFA 2025: เมื่อทุกอย่างถูกติดป้าย AI จนไม่รู้ว่าอะไรคือของจริง
ที่งาน IFA 2025 ใน Berlin คำว่า AI ถูกแปะไปแทบทุกผลิตภัณฑ์ จนความหมายเริ่มเบลอ หลายชิ้นเป็นแค่อัลกอริทึมหรือเซ็นเซอร์เดิมๆ ที่ถูกรีแบรนด์ว่า AI ขณะที่ของที่ใช้ Generative AI จริงยังมีแต่ไม่มาก ผู้ใช้จึงต้องคัดกรองว่าอะไรช่วยประหยัดเวลาได้จริง และอะไรเป็นเพียงการตลาด
สรุปสั้นๆ จากงาน IFA 2025 ที่ Berlin คือ AI ไม่ได้ยึดแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ยึดการตลาดไปทั้งแผง คำว่า “AI” โผล่ในแทบทุกบูธจนคนทั่วไปเริ่มงงว่า อันไหนคือ AI แบบสมัยใหม่ที่ฉลาดคุยได้ สรุปข้อมูลได้ และอันไหนเป็นแค่ฟีเจอร์เดิมๆ ที่ถูกติดป้ายใหม่ให้ดูไฮเทค
ตัวอย่างในงานมีตั้งแต่หมีหุ่นยนต์และกรอบตกแต่งสั่งงานด้วยพรอมป์ของ SwitchBot ไปจนถึงรถตัดหญ้าแมปบ้านอัตโนมัติของ Roborock และตู้เย็น Hisense ที่ช่วยแนะนำเมนูอาหาร ขณะที่ Samsung ก็ขนแบรนด์ AI ของตัวเองมาครบ ทั้ง Bespoke AI สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า Vision AI สำหรับความบันเทิงในบ้าน และ Galaxy AI สำหรับมือถือ แถมผู้ช่วยเสียงหลายเจ้า ก็ถูกเรียกว่า “AI voice assistant” กันถ้วนหน้า
ปัญหาคือ เมื่อทุกอย่างถูกเรียก AI ความหมายมันเริ่มจืด หลายดีไวซ์ไม่ได้ใช้ Generative AI แบบ LLM เหมือน Google Gemini หรือ ChatGPT ด้วยซ้ำ อย่างกรณี Samsung บอกว่า Bespoke AI ช่วยประหยัดไฟให้เครื่องซักผ้า เบื้องหลังจริงๆ คืออัลกอริทึมกับเซ็นเซอร์ที่คุมรอบการซัก ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เราคงไม่เรียกมันว่า AI แต่ก็มีตัวอย่างที่เคลียร์ เช่น Lepro อธิบายชัดว่าผู้ช่วยเสียงของเขาถูกสร้างด้วย LLM ที่เทรนด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบ เพื่อช่วยเลือกสีให้เข้ากับกิจกรรมต่างๆ แบบนี้ผู้ใช้เห็นภาพว่า AI ทำอะไรอยู่
คำถามต่อมาคือ แล้ว AI คุ้มไหมในบ้านอัจฉริยะ? คำตอบคือ แล้วแต่กรณี ถ้าเป็นงานที่ช่วยประหยัดเวลา เช่น ระบบรู้จำใบหน้าหรือสแกนคลิปวิดีโอให้ อันนี้มีประโยชน์มาก แต่บางอย่างก็ไม่เพิ่มค่าเท่าไหร่ อย่างแอร์ Hisense U8 S Pro Air Conditioner ที่บอกว่ามี AI voice assistant แต่สั่งได้แค่ 18 คำสั่ง หรือฟีเจอร์ AI Cooking Agent กับ AI Laundry Agent ที่ดูยัดเยียดมากกว่าช่วยจริง แม้แต่กรอบรูป E Ink ของ SwitchBot ที่สั่งด้วยพรอมป์ก็ดูน่าสนใจ แต่ยังชวนสงสัยว่า “จำเป็นแค่ไหน” สุดท้าย AI ควรช่วยลดงาน ไม่ใช่เพิ่มภาระให้เราต้องจัดการ
ยุคที่ทุกอย่างถูกติดป้าย AI ผู้ซื้อคงไม่ว่างเช็กทุกรายละเอียด นี่แหละคือเหตุผลที่ทีมทดสอบอย่าง CNET ออกมารีวิวและคัดกรอง ว่าอะไรเวิร์ก อะไรเปลืองเงิน อะไรมีปัญหาความเป็นส่วนตัว หรือ “หลอน” บ่อยเกินไป IFA 2025 ทำให้ลิสต์ของที่ต้องทดสอบยาวขึ้นอีกเยอะ และย้ำว่าก่อนจะเชื่อคำว่า AI ให้ดูให้ชัดว่าใช้เทคโนโลยีอะไร ทำอะไรให้ชีวิตเราดีขึ้นจริงบ้าง
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้