AI บุก Hollywood: ฝันหวานหรือฝันร้ายของวงการภาพยนตร์?

บริษัท AI กำลังพยายามผลักดันเทคโนโลยี Generative AI เข้าสู่ Hollywood อย่างหนัก แม้เทคโนโลยีจะยังไม่สมบูรณ์และมีความกังวลเรื่องลิขสิทธิ์และการลดจำนวนงาน แต่สตูดิโอหลายแห่งก็เริ่มให้ความสนใจเพราะมองว่าเป็นทางออกในการลดต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการพัฒนาของ AI ที่รวดเร็วเหลือเชื่อ จาก AI สร้างภาพที่เคยได้แค่ภาพเบลอๆ ตอนนี้กลับสร้างภาพละเอียดสมจริงได้สบายๆ และที่น่าจับตาคือ AI สร้างวิดีโออย่าง Runway's Gen series หรือ Google's Veo ก็เริ่มฉายแวว ทำให้สตูดิโอใหญ่ๆ ใน Hollywood เริ่มหันมาสนใจเทคโนโลยี Generative AI หรือ gen AI กันยกใหญ่
แม้จะมีข้อกังวลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์และการเข้ามาแทนที่งานของมนุษย์ แต่ผู้สนับสนุน gen AI ก็ยังยืนยันว่านี่คืออนาคตของการสร้างภาพยนตร์ พวกเขามองว่า AI จะช่วย "ทำให้ศิลปะเป็นประชาธิปไตย" (democratizing art) ด้วยการลดอุปสรรคต่างๆ เช่น การต้องเรียนวาดรูป เล่นดนตรี หรือเขียนบท ตรงนี้ทำให้หลายฝ่ายหันมามองว่าสตูดิโออาจจะมองข้ามผลกระทบที่ตามมาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ที่จริงแล้ว การใช้ AI ในวงการภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว เพราะสตูดิโอเคยใช้ AI ช่วยลดอายุตัวละครใน The Irishman หรือใช้ Machine Learning ช่วยซ้อนใบหน้านักแสดงใน Shang-Chi และ Thor: Love and Thunder มาแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือสตูดิโอไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผยเท่าไหร่ จนกระทั่งการประท้วงหยุดงานครั้งใหญ่ในปี 2023 ของนักแสดงและนักเขียนบท ที่เกิดจากความกังวลว่า AI จะกระทบอาชีพของพวกเขา แม้การประท้วงจะจบลงด้วยการคุ้มครองบางส่วน แต่สตูดิโอก็ยังคงใช้ AI ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น Indiana Jones and the Dial of Destiny และ Dune: Part Two
ปัจจุบัน gen AI ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เช่น สร้างฟุตเทจได้เพียงไม่กี่วินาที และยังขาดความสอดคล้องทางภาพ แต่บริษัท AI ยักษ์ใหญ่ทั้ง OpenAI, Google และ Meta ก็ยังคงเดินหน้าเจรจากับสตูดิโอต่างๆ เพื่อสร้างความร่วมมือ เช่น Lionsgate ที่จับมือกับ Runway เพื่อพัฒนา AI ของตัวเอง หรือ Amazon ที่ลงทุนใน Showrunner ที่เรียกตัวเองว่า "Netflix of AI" และ OpenAI ก็ประกาศแผนจะสร้างภาพยนตร์ยาวเรื่อง Critterz เพื่อพิสูจน์ว่า AI สร้างหนังได้ทั้งเรื่องจริงๆ
สิ่งที่น่าคิดคือ แม้ผู้สนับสนุน AI จะบอกว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่โปรเจกต์ Critterz ของ OpenAI กลับมีรายงานว่าใช้ทุนสร้างถึง US$30 ล้าน (≈ 1,100 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าภาพยนตร์ที่ใช้ Blender (โปรแกรมฟรี) อย่าง Flow ที่ได้ Oscar ด้วยทุนแค่ US$4 ล้าน (≈ 140 ล้านบาท) ตรงนี้ก็ทำให้เกิดคำถามว่า AI จะประหยัดจริงหรือแค่สร้างภาพกันแน่
อนาคตของ AI ใน Hollywood ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตา เพราะในขณะที่สตูดิโอหลายแห่งมองหาทางลดต้นทุนด้วย AI แต่ก็ต้องเผชิญกับคดีฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์ที่ตามมาไม่หยุดหย่อน และที่สำคัญคือ AI กำลังคุกคามอาชีพของศิลปินและนักสร้างสรรค์จำนวนมากในวงการนี้ ไม่แน่ว่า "เครื่องจักร" ที่สามารถสร้างงานศิลปะได้ไม่รู้จบในราคาถูก อาจเป็นได้ทั้งความฝันและฝันร้ายของ Hollywood ก็เป็นได้.
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้