NASA คอนเฟิร์ม! พบ Exoplanet นอกระบบสุริยะแล้วกว่า 6,000 ดวง

นักดาราศาสตร์ได้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อ NASA ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า จำนวน Exoplanet หรือดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่ได้รับการยืนยันแล้ว พุ่งทะลุ 6,000 ดวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งดาวเคราะห์เหล่านี้มีความหลากหลายอย่างน่าทึ่ง ตั้งแต่ดาวเคราะห์หิน ดาวเคราะห์ลาวา ไปจนถึงดาวแก๊สยักษ์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ของพวกมัน

ที่น่าสนใจคือ การค้นพบยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะ NASA’s Exoplanet Science Institute (NExScI) ยังตรวจพบดาวเคราะห์ที่อาจเป็นไปได้อีกกว่า 8,000 ดวงที่กำลังรอการยืนยัน และในอนาคตอันใกล้ ภารกิจอย่าง Nancy Grace Roman Space Telescope และ Habitable Worlds Observatory ก็ตั้งเป้าที่จะค้นหาดาวเคราะห์ที่คล้ายโลก และอาจมีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตอยู่ด้วย

การก้าวข้ามหลักไมล์ 6,000 ดวงนี้เกิดขึ้น 30 ปี หลังจากที่พบ Exoplanet ดวงแรกที่โคจรรอบดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์ของเรา Shawn Domagal-Goldman รักษาการผู้อำนวยการ Astrophysics Division ของ NASA ถึงกับบอกว่า นี่คือผลลัพธ์ของการสำรวจอวกาศมานานหลายทศวรรษ ที่เปลี่ยนมุมมองของมนุษย์ที่มีต่อท้องฟ้ายามค่ำคืนไปอย่างสิ้นเชิง และคำถามที่ว่า “เราอยู่โดดเดี่ยวหรือไม่” ก็ใกล้จะได้รับคำตอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

จากการค้นพบที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราเริ่มเห็นภาพรวมของประชากรดาวเคราะห์ในเอกภพ นักวิจัยคาดการณ์ว่า ดาวเคราะห์หินน่าจะเป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด นอกจากนี้ยังพบดาวเคราะห์ขนาดเท่าดาวพฤหัสบดีที่โคจรใกล้ดาวฤกษ์ของมันมากกว่าที่ดาวพุธโคจรรอบดวงอาทิตย์ หรือแม้แต่ดาวเคราะห์ที่มีดาวฤกษ์ถึงสองดวง บางดวงปกคลุมไปด้วยลาวา บางดวงก็มีเมฆอัญมณีล้ำค่าล้อมรอบอยู่ Dawn Gelino หัวหน้า NASA’s Exoplanet Exploration Program ย้ำว่า ความรู้เหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเราอยากรู้ว่าเราอยู่คนเดียวในจักรวาลหรือเปล่า

แม้จะมีการยืนยันดาวเคราะห์ถึง 6,000 ดวง แต่มีเพียงประมาณ 100 ดวงเท่านั้นที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเกตได้โดยตรง เพราะแสงจากดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลแสนไกลมักจะจางมากจนกลืนไปกับแสงของดาวฤกษ์แม่ ทำให้การตรวจจับส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีทางอ้อม เช่น Transit method ที่ตรวจจับดาวเคราะห์จากการสังเกตแสงของดาวฤกษ์ที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อดาวเคราะห์โคจรผ่านหน้า

อัตราการค้นพบ Exoplanet เร่งตัวขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะเมื่อสามปีที่แล้ว เราเพิ่งฉลองหลักไมล์ 5,000 ดวงไปหมาด ๆ แต่สำหรับนักวิจัยบางคน กระบวนการจากการค้นหาผู้สมัครไปจนถึงการยืนยันยังคงช้าเกินไป เพราะหลังจากตรวจพบสัญญาณดาวเคราะห์ที่อาจเป็นไปได้แล้ว ยังต้องมีการติดตามผลที่ใช้เวลานานเพื่อตัดความเป็นไปได้อื่น ๆ ออกไป Aurora Kesseli รองหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของ NASA Exoplanet Archive ชี้ว่า เราต้องการให้ชุมชนนักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดทำงานร่วมกัน เพื่อให้การลงทุนในภารกิจเหล่านี้เกิดประโยชน์สูงสุด และเปลี่ยนดาวเคราะห์ผู้สมัครให้กลายเป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับการยืนยัน

อนาคตของการวิจัยที่ NASA จะมุ่งเน้นไปที่ดาวเคราะห์หินคล้ายโลก โดยเฉพาะการศึกษาบรรยากาศเพื่อหาสัญญาณทางชีวภาพ หรือหลักฐานของสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน ทั้ง Roman Space Telescope และ Habitable Worlds Observatory จะมาพร้อมกับเครื่องมือที่สามารถบล็อกแสงดาวได้ เพื่อให้มองเห็นดาวเคราะห์คล้ายโลกที่จางที่สุดได้ชัดเจน หวังว่าการค้นพบเหล่านี้จะเผยรายละเอียดใหม่ ๆ เกี่ยวกับความหลากหลายของระบบดาวเคราะห์ รวมถึงบอกเราได้ว่า ระบบสุริยะแบบของเรานั้นพบบ่อยแค่ไหนในกาแล็กซีนี้ งานนี้ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า เราจะเจอเพื่อนบ้านในอวกาศเมื่อไหร่กันนะคะ