ข้ามไปยังเนื้อหา

โลกร้อน 56 ล้านปีก่อนเผยบทเรียน พืชหยุดโตทำวงจรดูดซับคาร์บอนพังยาวแสนปี

สุขภาพ
2 ครั้ง
0 ความเห็น
2 นาที
โลกร้อน 56 ล้านปีก่อนเผยบทเรียน พืชหยุดโตทำวงจรดูดซับคาร์บอนพังยาวแสนปี
Photo by vee terzy on Pexels
By Suphansa Makpayab
TL;DR

งานวิจัยใหม่เผยภาวะโลกร้อนเมื่อ 56 ล้านปีก่อน ทำให้พืชหยุดเจริญเติบโตและกักเก็บคาร์บอนได้น้อยลง ส่งผลให้ภาวะโลกร้อนกินเวลานานกว่า 100,000 ปี เตือนปัจจุบันโลกร้อนเร็วกว่าอดีต 10 เท่า พืชอาจปรับตัวไม่ทัน

ย้อนกลับไปเมื่อ 56 ล้านปีก่อน โลกเคยเผชิญวิกฤตอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่ายุค PETM (Paleocene-Eocene Thermal Maximum) ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญของภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ล่าสุดมีงานวิจัยตีพิมพ์ใน Nature Communications เปิดเผยความจริงที่น่ากังวลว่า ในช่วงเวลาที่โลกร้อนขึ้นราว 6 องศาเซลเซียสนั้น "พืช" ที่เรามักมองว่าเป็นฮีโร่ช่วยกู้โลก กลับกลายเป็นผู้ประสบภัยเสียเองจนระบบนิเวศเสียสมดุล

ทีมวิจัยได้ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ร่วมกับการวิเคราะห์ฟอสซิลละอองเรณู (Pollen) จากพื้นที่อย่าง Bighorn Basin ในสหรัฐฯ และทะเลเหนือ พบว่าความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นทำให้พืชในแถบละติจูดกลาง (Mid-latitudes) ไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่ จากเดิมที่เป็นป่าไม้ใหญ่ที่กักเก็บคาร์บอนได้มหาศาล กลับถูกแทนที่ด้วยพืชขนาดเล็กที่ทนแล้งได้ดีอย่างปาล์มและเฟิร์น ซึ่งแม้จะอยู่รอดได้ แต่ความสามารถในการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Sequestration) นั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินเมื่อเทียบกับป่าดั้งเดิม

ผลกระทบที่ตามมาคือสิ่งที่เรียกว่า Feedback Loop หรือวงจรอุบาทว์ เมื่อพืชดูดซับคาร์บอนได้น้อยลง ก๊าซเรือนกระจกจึงค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศนานขึ้น ส่งผลให้ภาวะโลกร้อนในยุคนั้นลากยาวไปกว่า 100,000 ปี กว่าที่พืชจะฟื้นตัวกลับมาทำหน้าที่ "เครื่องฟอกอากาศ" ได้ดังเดิม ที่น่าตกใจคืออัตราการร้อนขึ้นของโลกในยุคปัจจุบันนั้นเร็วกว่ายุค PETM ถึง 10 เท่า ซึ่งอาจเกินขีดจำกัดที่พืชยุคนี้จะปรับตัวทัน บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่าอย่าหวังพึ่งธรรมชาติให้มาช่วยเก็บกวาดคาร์บอนเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าโลกร้อนจนถึงจุดหนึ่ง แม้แต่ต้นไม้ก็อาจจะเอาตัวเองไม่รอดเหมือนกัน

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้