งานวิจัยชี้! จุลินทรีย์ในลำไส้อาจมีส่วนกำหนด ‘นิสัยกล้าแสดงออก’ ตั้งแต่วัยเด็ก

งานวิจัยชิ้นใหม่ชวนให้เราต้องหันมามองเพื่อนตัวจิ๋วในลำไส้กันใหม่ เมื่อทีมนักวิจัยพบว่าหนูทดลองที่ได้รับการปลูกถ่ายอุจจาระจากเด็กเล็กที่มีนิสัยกล้าแสดงออก กลับมีพฤติกรรมชอบสำรวจและอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนี่อาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่บอกใบ้ว่า แบคทีเรียในลำไส้มีบทบาทในการปั้นแต่งบุคลิกภาพของเราตั้งแต่วัยเยาว์

การศึกษานี้ นำโดย Anna Aatsinki จาก University of Turku ประเทศฟินแลนด์ เริ่มต้นจากการประเมินนิสัยของเด็กเล็กวัย 2 ขวบครึ่งจำนวน 27 คน แล้วแบ่งกลุ่มเป็นเด็กที่ 'กล้าแสดงออก' (Exuberant) และกลุ่มที่ 'เก็บตัว' (Inhibited) จากนั้นทีมได้คัดเลือกตัวอย่างอุจจาระจากเด็กทั้งสองกลุ่มไปปลูกถ่ายให้กับหนูทดลองที่ผ่านการล้างลำไส้มาแล้ว

ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าทึ่งไม่น้อย หนูที่ได้รับจุลินทรีย์จากเด็กกลุ่มกล้าแสดงออก แสดงพฤติกรรมชอบสำรวจสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ มากกว่าหนูกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ได้รับจุลินทรีย์จากเด็กเก็บตัวอย่างชัดเจน ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เมื่อนักวิจัยวิเคราะห์เนื้อเยื่อสมองของหนู พวกเขาพบว่าหนูที่ได้รับเชื้อจากเด็กเก็บตัว มีการทำงานของเซลล์ประสาทที่ผลิต Dopamine (สารเคมีในสมองที่เชื่อมโยงกับความพึงพอใจและการให้รางวัล) ลดลง ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายว่าทำไมพวกมันถึงไม่ค่อยกล้าเสี่ยงหรือสำรวจเท่าที่ควร

Harriët Schellekens ผู้เชี่ยวชาญจาก University College Cork ในไอร์แลนด์ ถึงกับเอ่ยปากชมว่างานวิจัยนี้ได้สร้างสะพานเชื่อมที่หาได้ยากระหว่างจุลินทรีย์ อารมณ์ของมนุษย์ และการทำงานของสมอง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างลำไส้และสมอง (Gut–Brain Axis) ที่ส่งผลต่อความอยากรู้อยากเห็นและแรงจูงใจผ่านระบบ Dopamine

อย่างไรก็ตาม Aatsinki หัวหน้าทีมวิจัยเองก็ยังย้ำเตือนว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปไปไกลนัก เพราะปัจจัยทางพันธุกรรมยังคงมีอิทธิพลอย่างมากต่อบุคลิกภาพโดยรวม และยังคงเป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบกันต่อไปว่า แท้จริงแล้วจุลินทรีย์เป็นตัวกำหนดพฤติกรรม หรือพฤติกรรมของเด็กที่แตกต่างกัน (เช่น การเลือกกิน หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม) เป็นตัวกำหนดชนิดของจุลินทรีย์ในลำไส้กันแน่

ดูเหมือนว่าเรื่องของเพื่อนตัวจิ๋วในร่างกายเราจะซับซ้อนกว่าที่คิด บางทีครั้งต่อไปที่เห็นเด็กคนไหนร่าเริงสดใสเป็นพิเศษ อาจต้องยิ้มมุมปากแล้วคิดว่า... ไม่ใช่แค่การเลี้ยงดู แต่อาจเป็นผลงานของเหล่าแบคทีเรียในท้องของพวกเขาก็เป็นได้