เทรนด์ท้าตาย Gen Z กิน Benadryl ให้หลอน หวังเจอ ‘Hat Man’ ในโลกมืด

เทรนด์อันตรายในกลุ่มวัยรุ่น Gen Z กำลังระบาด เมื่อพวกเขาท้าทายกันกินยาแก้แพ้ Benadryl ในปริมาณสูงลิ่ว ไม่ใช่เพื่อรักษาอาการป่วย แต่เพื่อสัมผัสประสบการณ์หลอนสุดขั้ว ที่อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว ชัก หรือเสียชีวิตได้
เทรนด์สุดอันตรายกำลังกลับมาระบาดในหมู่คนรุ่นใหม่ เมื่อวัยรุ่น Gen Z จำนวนไม่น้อยหันมาใช้ยาแก้แพ้ยี่ห้อดังอย่าง Benadryl ในทางที่ผิด ด้วยการกินทีละเป็นสิบๆ เม็ด ไม่ใช่เพื่อแก้แพ้ แต่เพื่อทำให้ตัวเองเกิดอาการประสาทหลอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Challenge ที่ท้าทายกันบน TikTok
สิ่งที่พวกเขาตามหาไม่ใช่ความสุขเหมือนยาเสพติดชนิดอื่น แต่เป็น 'Bad Trip' หรือประสบการณ์เลวร้ายสุดขั้ว สาร Diphenhydramine ใน Benadryl เมื่อใช้เกินขนาดจะทำหน้าที่เป็นยาหลอนประสาทประเภท Deliriant ที่ขุดเอาความกลัวจากส่วนลึกของจิตใจออกมา ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพหลอนน่าสยดสยอง จนเกิดเป็นตำนาน ‘Hat Man’ ชายลึกลับในชุดดำสวมหมวกทรงสูง ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของประสบการณ์หลอนจากการใช้ Benadryl ไปโดยปริยาย
ความน่ากลัวคือเทรนด์นี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ย้อนกลับไปในปี 2020 ที่ ‘Benadryl challenge’ เริ่มเป็นกระแสบน TikTok มีรายงานวัยรุ่นใน Texas 3 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลจากการใช้ยาเกินขนาดในสัปดาห์เดียว และที่น่าเศร้าคือมีเด็กวัย 15 ปีใน Oklahoma เสียชีวิตจากอาการชักเพราะกินยาตัวนี้เกินขนาด จน FDA ของสหรัฐฯ ต้องออกโรงเตือนผู้ปกครองให้เก็บยาให้มิดชิด แต่ดูเหมือนคำเตือนจะไม่เป็นผล เพราะสถิติจากศูนย์พิษวิทยาสหรัฐฯ พบว่าเคสการใช้ Benadryl ผิดวิธีพุ่งจาก 4,618 รายในปี 2020 เป็น 5,960 รายในปี 2023
ผู้ที่เคยมีประสบการณ์เล่าว่า นอกจากจะเห็นภาพหลอนอย่างแมลงหรือใยแมงมุมไต่ตามตัวแล้ว ผลข้างเคียงทางกายยังหนักหนาสาหัส ทั้งหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ คลื่นไส้ หายใจไม่ออก ปากแห้ง และสูญเสียความทรงจำอย่างรุนแรง Ryan Marino ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาจาก Case Western Reserve University’s School of Medicine ชี้ว่า การใช้ยาประเภทนี้ในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง คล้ายกับอาการของโรคสมองเสื่อมเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจคือเบื้องหลังพฤติกรรมเสี่ยงตายนี้ มีทั้งเรื่องปัญหาสุขภาพจิตและความเหลื่อมล้ำซ่อนอยู่ ผู้ใช้บางคนยอมรับว่านี่คือรูปแบบหนึ่งของการทำร้ายตัวเอง (Self-harm) และเป็นหนทาง 'หลบหนี' จากภาวะซึมเศร้าและความจริงอันโหดร้าย เพราะมันช่วยให้รู้สึก 'ชา' และไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป ประกอบกับราคาที่ถูกแสนถูกและหาซื้อง่าย จนบางคนเรียกมันว่า 'ยาของคนจน' (Poverty drug) เพราะแค่ไม่กี่ดอลลาร์ก็สามารถซื้อหามาหลบหนีความจริงได้แล้ว
เรื่องนี้สะท้อนภาพสังคมที่ซับซ้อนของ Gen Z ได้เป็นอย่างดี ทั้งอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย ปัญหาสุขภาพจิตที่รุมเร้า และความเปราะบางทางการเงินที่ผลักให้พวกเขาหันไปหาสิ่งเสพติดราคาถูก...ก็คงต้องรู้สึกพังไปไกลพอตัว ถึงจะหันมาพึ่งยาแก้แพ้เพื่อหนีจากโลกแห่งความจริง
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้