OpenAI เปิดตัว Sora App: สร้าง Deepfake ตัวเองได้ง่าย ๆ เพื่อความบันเทิง!

OpenAI เปิดตัวแอป Sora ให้ผู้ใช้สร้าง Deepfake ของตัวเองและเพื่อน ๆ ได้ง่าย ๆ ด้วย AI โดยมีฟีดวิดีโอคล้าย TikTok แต่ก็มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยในการใช้งาน
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา OpenAI ได้ฤกษ์ปล่อยแอปพลิเคชันวิดีโอ AI ตัวใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Sora ซึ่งขับเคลื่อนด้วยโมเดล Sora 2 ที่อัปเกรดมาให้เจ๋งกว่าเดิม จุดเด่นของแอปนี้คือหน้าฟีดที่เหมือน TikTok เป๊ะ ๆ เลย ให้เราได้เลื่อนดูวิดีโอที่สร้างโดยผู้ใช้คนอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่ OpenAI ใส่เสียงที่สร้างโดย AI เข้าไปในวิดีโอด้วยนะเออ! ตอนนี้แอปเปิดให้ใช้เฉพาะบน iOS และต้องมีโค้ดเชิญเท่านั้นถึงจะเข้าไปเล่นได้
ก่อนจะเข้าไปโลกแห่ง AI ได้ แอปจะขึ้นข้อความเตือนว่า “คุณกำลังจะเข้าสู่โลกแห่งเนื้อหาที่สร้างโดย AI ที่สร้างสรรค์นะจ๊ะ” พร้อมกำชับว่า “วิดีโอบางส่วนอาจมีบุคคลที่คุณรู้จัก แต่การกระทำและเหตุการณ์ที่แสดงไม่ใช่เรื่องจริง” ฟังดูน่าตื่นเต้นปนน่ากลัวนิด ๆ นะว่าไหม? OpenAI เดิมพันว่าการสร้างและแชร์ Deepfake ด้วย AI จะกลายเป็นความบันเทิงยอดนิยมในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน อินฟลูเอนเซอร์ หรือคนแปลกหน้าออนไลน์ Sora ก็มองว่าการสร้าง Deepfake เป็นเรื่องสนุกที่เลื่อนดูได้เรื่อย ๆ ฟีดหลักของแอปก็เลยเต็มไปด้วยวิดีโอ AI สั้น ๆ ที่มีหน้าคนเต็มไปหมด
ตอนตั้งค่า ผู้ใช้สามารถสร้างอวตารดิจิทัลของตัวเองได้ง่าย ๆ แค่พูดตัวเลขสองสามตัวออกเสียงแล้วก็หันหน้าไปรอบ ๆ ให้แอปบันทึก Sam Altman, CEO ของ OpenAI, ถึงกับเขียนในบล็อกว่า “ทีมงานทุ่มเทมากกับการสร้างความสอดคล้องของตัวละคร” ซึ่งตรงนี้ทำให้หลายฝ่ายหันมามองว่ามันจะสมจริงขนาดไหนกันเชียว? ผู้ใช้ยังเลือกได้ด้วยว่าใครจะใช้รูปหน้าของตัวเองในวิดีโอ Sora ได้บ้าง จะเปิดให้ทุกคน หรือจำกัดเฉพาะตัวเอง คนที่เราอนุมัติ หรือแค่เพื่อน ๆ ที่เชื่อมต่อกันในแอปก็ได้ ที่เจ๋งคือ ถ้ามีใครเอาหน้าเราไปสร้างวิดีโอ เราจะเห็นคลิปเต็ม ๆ ได้จากหน้าบัญชีของเราเลยนะ
จากรีวิวของ WIRED ที่ได้ลองเล่นแอปนี้ พวกเขาสังเกตว่าวิดีโอที่ได้รับความนิยมสูงสุดในฟีดส่วนใหญ่เป็นรูปหน้าของ Sam Altman เอง หนึ่งในคลิปที่ AI สร้างขึ้นมาคือ Altman กำลังขโมยการ์ดจอจาก Target พอโดนจับได้ เสียงที่คล้าย Altman ก็อ้อนวอน รปภ. ให้ปล่อยไป เพื่อที่เขาจะได้เอาการ์ดจอไปสร้างเครื่องมือ AI ต่อไป โอ้โห... ถ้าเป็นเรื่องจริงคงฮากระจาย! แม้ว่าวิดีโอหลาย ๆ ตัวที่ WIRED สร้างขึ้นมาจะยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่ Sora ก็ทำให้การสร้าง Deepfake ส่วนตัวที่ดูสมจริงและมีเสียงที่น่าเชื่อถือกลายเป็นเรื่องง่ายเหลือเชื่อ
WIRED ยังบอกอีกว่าการใส่รูปหน้าคนอื่นในวิดีโอก็แค่แตะที่หน้าของพวกเขาในหน้าสร้างวิดีโอของ Sora แล้วเพิ่มเป็น “cameos” จากนั้นก็ใส่ Prompt ง่าย ๆ เช่น “ทะเลาะกันในออฟฟิศเรื่องข่าว WIRED” แค่นี้ Sora ก็จะจัดการสร้างสคริปต์ เสียง และภาพออกมาเป็นคลิปยาว 9 วินาทีได้เลย WIRED ลองสร้างวิดีโอที่เพื่อนร่วมงานสองคนกำลังเถียงกันอย่างดุเดือดในออฟฟิศด้วย Prompt นี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้พนักงานคนอื่น ๆ ทั้งตกใจและขำขันไปตาม ๆ กัน
Altman ยอมรับว่า OpenAI ตระหนักดีว่าบริการแบบนี้อาจทำให้คนเสพติดได้ และอาจถูกนำไปใช้ในการกลั่นแกล้งกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น OpenAI จึงได้สร้างระบบป้องกันความปลอดภัยหลายชั้นในแอป Sora เพื่อลดความเสี่ยงที่คนจะ “ใช้รูปหน้าของผู้อื่นใน Deepfake ในทางที่ผิด” นอกจากนี้ OpenAI ยังจำกัดเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับบุคคลจริง การโฆษณาชวนเชื่อแบบสุดโต่ง เนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง และเนื้อหาที่ส่งเสริมการทำร้ายตัวเองหรือความผิดปกติในการกิน ซึ่งระบบป้องกันเหล่านี้คงจะต้องถูกทดสอบอย่างหนักเมื่อมีผู้ใช้เข้าร่วมแอปมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อ WIRED ลองขอให้ Sora สร้างวิดีโอของตัวเองในชุดบิกินี่ หรือเป็นตัวละครอนิเมะกล้ามโต คำขอเหล่านี้ถูกบล็อกหมดเลย เพราะอาจมีเนื้อหาที่ “ชวนให้คิดหรือส่อไปในทางเพศ” แต่พอขอให้สร้างวิดีโอที่ตัวเอง “สูบกัญชา 10 มวน” ที่โต๊ะทำงาน แอปกลับสร้างให้ได้ไม่มีปัญหา (แต่ถ้าขอให้ “สูบโคเคน” ก็โดนบล็อกนะ!) นอกจากนี้ OpenAI ยังพยายามป้องกันไม่ให้คนสร้างวิดีโอของบุคคลสาธารณะหรือคนดังอย่าง Taylor Swift ด้วย แต่กลับสร้างวิดีโอตัวละคร Pokémon อย่าง Pikachu และ Bulbasaur ได้สบาย ๆ สงสัยว่า AI อาจจะยังแยกแยะไม่ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรหรือไม่ควรสร้างในบางบริบทนะเนี่ย
แอป Sora ออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับ Vibes ซึ่งเป็นฟีดวิดีโอ AI ของ Meta ที่คล้ายกัน แม้ว่า Vibes จะดูจืดชืดไปหน่อย แต่ Sora กลับดูมีชีวิตชีวาและน่ากังวลกว่ามาก ด้วยวิดีโอ Deepfake ที่มีแต่หน้าคนยิ้ม ๆ เต็มไปหมด แอปนี้ชวนให้นึกถึงวิดีโอ “Elf Yourself” สมัยก่อน ที่เราเอาหน้าตัวเองไปใส่ในอนิเมชันเต้นได้ แต่ Sora ทำได้แบบไดนามิกกว่าและเปิดกว้างกว่าเยอะเลย ทีนี้ก็ต้องมาดูกันว่า AI จะพาเราไปสุดที่ตรงไหนกันนะ?
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้