OpenAI ปรับโครงสร้างทีม Model Behavior เข้ารวมกับ Post Training พร้อมตั้งทีมวิจัยใหม่ OAI Labs
OpenAI ยุบรวมทีม Model Behavior (ราว 14 คน) เข้ากับทีม Post Training เพื่อพาบทบาท “บุคลิกของโมเดล” เข้าใกล้การพัฒนาหลักมากขึ้น ขณะเดียวกัน Joanne Jang ผู้ก่อตั้งทีมเดิมย้ายไปตั้ง OAI Labs โฟกัสการประดิษฐ์อินเตอร์เฟซใหม่สำหรับการร่วมมือกับ AI ท่ามกลางแรงกดดันต่อพฤติกรรมโมเดล หลังเสียงวิจารณ์ GPT-5 และคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการตอบโต้แนวคิดฆ่าตัวตาย
OpenAI ปรับโครงสร้างครั้งสำคัญ โดยย้ายทีม Model Behavior ซึ่งมีนักวิจัยราว 14 คน ไปอยู่ภายใต้ทีม Post Training ที่รับผิดชอบปรับปรุงโมเดลหลังการ pre-training ตามบันทึกภายในเดือนสิงหาคมที่ Mark Chen ประธานเจ้าหน้าที่ด้านวิจัยส่งถึงพนักงาน และได้รับการยืนยันกับ TechCrunch การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทีมเดิมรายงานตรงต่อ Max Schwarzer หัวหน้าทีม Post Training
ทีม Model Behavior ถือเป็นหนึ่งในแกนวิจัยที่กำหนดบุคลิกและท่าทีของโมเดล AI ของบริษัท ลดพฤติกรรม sycophancy (การเออออตามผู้ใช้แม้ในประเด็นที่ไม่เหมาะสม) เดินเรื่องอคติทางการเมืองในคำตอบ และมีส่วนช่วยกำหนดจุดยืนของ OpenAI ต่อประเด็นสติของ AI การย้ายทีมเข้าใกล้การพัฒนาหลักสะท้อนว่าบุคลิกของโมเดลถูกยกระดับเป็นปัจจัยวิกฤติในการวิวัฒน์เทคโนโลยี ทีมนี้มีส่วนกับโมเดลตั้งแต่ GPT-4 รวมถึง GPT-4o, GPT-4.5 และ GPT-5
ช่วงหลัง OpenAI เผชิญแรงวิจารณ์เรื่องพฤติกรรมของโมเดล ผู้ใช้จำนวนหนึ่งไม่พอใจกับการเปลี่ยนบุคลิกของ GPT-5 แม้บริษัทระบุว่าอัตรา sycophancy ลดลง แต่บางคนรู้สึกว่าโมเดล “เย็นชา” กว่าเดิม จน OpenAI ต้องคืนการเข้าถึงบางโมเดลรุ่นก่อนอย่าง GPT-4o และออกอัปเดตให้คำตอบของ GPT-5 ดูอบอุ่นและเป็นมิตรมากขึ้น โดยไม่เพิ่ม sycophancy
เส้นบางๆ ระหว่างการทำให้แชตบอทเป็นมิตรกับการไม่เออออตามผู้ใช้ยังเป็นโจทย์ยาก เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พ่อแม่ของเด็กชายวัย 16 ปีฟ้อง OpenAI กล่าวหา ChatGPT มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของลูก ตามเอกสารคำฟ้อง เด็กชายชื่อ Adam Raine เคยระบายความคิดและแผนการฆ่าตัวตายกับเวอร์ชันที่ขับเคลื่อนด้วย GPT-4o และกล่าวหาว่าระบบไม่ได้คัดง้างความคิดดังกล่าวอย่างเพียงพอ
ด้าน Joanne Jang ผู้ก่อตั้งและผู้นำทีม Model Behavior เดิม กำลังเริ่มโครงการใหม่ชื่อ OAI Labs เพื่อ “ประดิษฐ์และต้นแบบอินเตอร์เฟซใหม่ๆ สำหรับการร่วมมือระหว่างคนกับ AI” เธอจะนั่งเก้าอี้ผู้จัดการทั่วไปของ OAI Labs และรายงานต่อ Chen ในช่วงแรก โดยยอมรับว่ายังอยู่ช่วงตั้งไข่และรายละเอียดอินเตอร์เฟซใหม่ยังไม่ชัด Jang เคยทำงานในโครงการอย่าง Dall-E 2 และประกาศบน X ว่าจะเริ่มบทใหม่ใน OpenAI เธอบอกว่าต้องการขยับออกจากพาราไดม์แชตที่ถูกโยงกับความเป็นเพื่อนคุยหรือเอเจนต์อัตโนมัติ มองให้ระบบ AI เป็น “เครื่องมือสำหรับการคิด สร้าง เล่น ลงมือทำ เรียนรู้ และเชื่อมต่อ” ส่วนความเป็นไปได้ในการทำงานร่วมกับ Jony Ive เธอบอกว่าเปิดกว้าง แต่จะเริ่มจากพื้นที่วิจัยที่คุ้นเคยก่อน
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้