ข้ามไปยังเนื้อหา

OpenAI ปล่อย ChatGPT for Teachers ฟรีถึงปี 2027 ให้ครูใช้ทำสื่อการสอน

เทคโนโลยี
1 ครั้ง
0 ความเห็น
3 นาที
OpenAI ปล่อย ChatGPT for Teachers ฟรีถึงปี 2027 ให้ครูใช้ทำสื่อการสอน
Image Credit: OpenAI
By Suphansa Makpayab
TL;DR

OpenAI เปิด ChatGPT for Teachers เวอร์ชันฟรีสำหรับครู K-12 ใช้ GPT-5.1 Auto ได้ไม่จำกัดข้อความ พร้อมฟีเจอร์ทำสื่อการสอนและแชร์กับเพื่อนครู ปรับให้ปลอดภัยตามกฎหมายข้อมูลนักเรียน และหวังยึดพื้นที่ตลาดการศึกษาแข่งกับ Google.

OpenAI หันมาเอาใจฝั่งครูเต็มตัว เปิดบริการใหม่ในชื่อ ChatGPT for Teachers ให้บุคลากรในโรงเรียนระดับ K-12 ใช้ช่วยทำแผนการสอน ทำใบงาน และออกแบบกิจกรรมในห้องเรียนกันแบบถูกระเบียบ ไม่ต้องลุ้นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล แถมให้ใช้กันฟรียาว ๆ ถึงเดือนมิถุนายน 2027 เลยทีเดียว ตรงนี้เรียกได้ว่า จากเดิมเด็กใช้ ChatGPT ทำการบ้าน ตอนนี้ถึงคิวครูใช้ ChatGPT ทำการสอนกลับคืนบ้าง

ตัว ChatGPT for Teachers จะให้สิทธิ์ใช้ข้อความกับโมเดล GPT-5.1 Auto ได้ไม่จำกัด พร้อมความสามารถครบเหมือนเวอร์ชันผู้ใช้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการต่อกับแอปอื่น (connectors), อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, และใช้ฟีเจอร์ memory จำบริบทการคุยก่อนหน้า ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อให้ครูลองใช้ AI ในแบบที่คุมเองได้ ไม่ต้องรู้โค้ด ไม่ต้องเป็นสายไอที แค่รู้ว่าต้องการสื่อการสอนแบบไหน ที่เหลือให้บอทช่วยคิด

จุดที่ต่างจาก ChatGPT ปกติคือเวอร์ชันนี้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับ Family Education Rights Act กฎหมายที่กำกับวิธีเก็บและใช้ข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียนสหรัฐ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญมากในวงการศึกษา เพราะถ้าพลาดคือเจอเรื่องแน่นอน OpenAI ยังใส่ฟีเจอร์ทำงานร่วมกัน เช่น แชร์ห้องแชตให้เพื่อนครูดู ปรับต่อ หรือเอาไปใช้ต่อในวิชาอื่นได้ และยังมีการเสนอไอเดียในแชตใหม่ ๆ ว่า “ครูคนอื่นใช้ ChatGPT ทำอะไร” เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแบบสำเร็จรูป ไม่ต้องคิดคนเดียวให้หัวร้อน

ถ้ามองภาพกว้าง OpenAI เดินเกมการศึกษาไว้หลายตัวแล้ว:

  • ChatGPT for Teachers – เวอร์ชันฟรีสำหรับครู K-12 ใช้สอนและทำเนื้อหาในห้องเรียน

  • ChatGPT Edu – แพ็กเกจให้สถาบันการศึกษาใช้แจกบัญชี ChatGPT ให้นักศึกษาและบุคลากร เหมือนแจกอีเมล

  • Study Mode – โหมดอธิบายเนื้อหาแบบทีละขั้นตอน มีในทุกเวอร์ชันของ ChatGPT เอาไว้ช่วยเด็กอ่านหนังสือและทำความเข้าใจเอง

ที่น่าสนใจคือ OpenAI เลือกเริ่มจากการ “จีบครู” มากกว่าแข่งแจกของให้เด็กอย่างเดียว เพราะถ้าครูเริ่มพอใจกับเครื่องมือ ครูก็จะเป็นคนดันให้ทั้งโรงเรียนปรับตัวใช้ AI ตามไปเอง ในมุมระบบการศึกษา นี่อาจช่วยให้ครูมีเวลามากขึ้นไปโฟกัสกับการสอนและดูแลเด็กแทนงานเอกสาร แต่ในอีกมุมก็ชวนให้ตั้งคำถามว่า ถ้าครูใช้ AI ทำแผนการสอน เด็กใช้ AI ทำการบ้าน อีกหน่อยใครกันแน่ที่ต้องสอบให้ผ่านจริง ๆ

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้