GTA 6 ตั้งราคา US$100 จะเจ๊ง? ผลวิจัยชี้ US$70 คือจุดทำเงินสูงสุด

กลายเป็นประเด็นถกเถียงที่ร้อนแรงที่สุดในวงการเกมตอนนี้ กับคำถามที่ว่า Grand Theft Auto 6 เกมที่ทุกคนรอคอย จะมีราคาเปิดตัวเท่าไหร่? ท่ามกลางกระแสคาดเดาว่าอาจพุ่งไปถึง US$100 (≈ 3,690 บาท) ล่าสุดมีผลวิจัยที่น่าสนใจจาก MIDiA Research ออกมาเบรกความคิดนั้น โดยชี้ว่าราคา “sweet spot” ที่จะทำเงินให้ Rockstar ได้มากที่สุดกลับเป็นราคามาตรฐานที่ US$70 (≈ 2,590 บาท) ต่างหาก

เรื่องนี้สวนทางกับที่หลายฝ่ายคาดการณ์ โดยเฉพาะเมื่อ Strauss Zelnick, CEO ของบริษัทแม่ Take-Two, มักจะเลี่ยงตอบคำถามนี้อยู่เสมอ และมีนักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า Rockstar อาจใช้โอกาสนี้ตั้งราคาสูงถึง US$100 เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการ หลังจากต้นทุนการพัฒนาเกมพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาเกมกลับไม่ได้ขยับตามมานานหลายปี

แต่ผลวิจัยของ MIDiA ที่ได้สำรวจผู้บริโภคในสหรัฐฯ กว่า 2,000 คน กลับให้ภาพที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ข้อมูลชี้ว่าการตั้งราคาที่ US$69.99 เป็นจุดที่สร้างรายได้รวมสูงสุด เพราะแม้จะมีคนยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่า แต่จำนวนที่ลดลงของยอดขายโดยรวมจะทำให้รายได้หดหายไปมากกว่ากำไรที่ได้เพิ่มมา พูดง่าย ๆ คือ การตั้งราคาที่ US$100 จะทำให้ Rockstar “เสียเงิน” มากกว่าจะได้เงินเพิ่ม

ตัวเลขจากผลสำรวจก็ชัดเจนครับ 60% ของผู้ที่สนใจ GTA 6 บอกว่าจะซื้อเกม “แน่นอน” หรือ “น่าจะซื้อ” ที่ราคา US$69.99 แต่ตัวเลขนี้จะลดลงเหลือเพียง 35% หากราคาดีดขึ้นไปที่ US$99.99 ที่น่าสนใจคือ หากตั้งราคาที่ US$70 คาดว่าจะทำยอดขายในสหรัฐฯ ได้ถึง 22.9 ล้านชุด สร้างรายได้ราว US$1.6 พันล้าน (≈ 5.9 หมื่นล้านบาท) เลยทีเดียว

สุดท้ายแล้ว Rockstar จะเลือกทางไหนระหว่างการ “โกยเงินให้ได้มากที่สุด” ตามข้อมูลวิจัย หรือจะใจกล้า “สร้างมาตรฐานราคาใหม่” ให้วงการเกม ก็คงต้องรอดูกันต่อไป แต่ที่แน่ ๆ คือแฟนเกมทั่วโลกคงได้แต่ภาวนาว่าอย่าตั้งราคาสูงจนต้องกินมาม่ารอเล่นก็แล้วกัน

*อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2567 คือ US$1 ≈ 36.9 บาท