Gemini ขออ่านอีเมล-ไฟล์งาน! ฟีเจอร์ Deep Research ใหม่ ล้วงข้อมูลทำรายงานได้

Google อัปเดต Gemini เพิ่มฟีเจอร์ Deep Research ที่สามารถดึงข้อมูลส่วนตัวจาก Gmail, Drive และ Chat มาใช้สร้างรายงานเชิงลึกได้แล้ว ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลสะดวกขึ้น แต่ก็แอบน่ากังวลเบา ๆ
Google ยกระดับความสามารถของ Gemini ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ "Deep Research" ที่สามารถล้วงข้อมูลจากบริการส่วนตัวอย่าง Gmail, Drive และ Chat ของผู้ใช้มาช่วยสร้างรายงานเชิงลึกได้แล้ว โดย Google บอกว่านี่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีคนเรียกร้องเข้ามามากที่สุด
ฟีเจอร์ Deep Research นี้ไม่ใช่แค่การตอบคำถามธรรมดา ๆ แต่เป็นฟีเจอร์แบบ Agentic (ทำงานเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างรายงานการวิจัยโดยเฉพาะ เมื่อได้รับคำสั่ง Gemini จะเริ่มจากการวางแผนการค้นคว้าแบบเป็นขั้นเป็นตอน จากนั้นจึงทำการค้นหาข้อมูลจากเว็บ และสุดท้ายก็รวบรวมเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่เราสามารถสั่งให้ปรับแก้เพิ่มเติม หรือจะ Export ออกไปเป็น Google Doc หรือแม้กระทั่งพอดแคสต์ที่สร้างโดย AI ก็ยังได้
ที่น่าสนใจคือการเชื่อมต่อกับบริการใน Workspace ทำให้เราสามารถสั่งให้ Deep Research วิเคราะห์ตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยอ้างอิงจากเอกสารระดมสมอง, อีเมลที่เกี่ยวข้อง หรือแผนงานโครงการที่อยู่ใน Drive และ Gmail ของเราได้ หรือจะใช้สร้างรายงานคู่แข่งโดยเปรียบเทียบข้อมูลสาธารณะบนเว็บกับกลยุทธ์, ตารางเปรียบเทียบ และบทสนทนาในทีมของเราที่อยู่ใน Chat ก็ทำได้เช่นกัน
วิธีการใช้งานก็ง่าย ๆ เพียงแค่เลือก "Deep Research" บนแถบคำสั่งของ Gemini จากนั้นก็เลือกแหล่งข้อมูลที่ต้องการให้ AI เข้าถึงได้ ซึ่งมี 4 ตัวเลือกคือ Google Search, Gmail, Drive และ Chat ทำให้ข้อมูลในอีเมล, เอกสาร, สไลด์, ชีต, PDF ไปจนถึงบทสนทนาใน Google Chat กลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีให้ AI นำไปประมวลผล
ตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังใช้ได้เฉพาะบน Desktop เท่านั้น แต่ Google ก็แอบกระซิบมาว่าจะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้บนมือถือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็ถือว่าสะดวกสบายขึ้นเยอะ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าต่อไปนี้ AI อาจจะรู้เรื่องของเราดีกว่าเพื่อนสนิทไปแล้วก็ได้
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้