อดีตพนักงาน Microsoft แฉเอง 'Windows มันห่วย!' เพราะกลายเป็นเครื่องมือการตลาด

Dave Plummer อดีตโปรแกรมเมอร์ของ Microsoft ผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือสำคัญอย่าง Task Manager และ ZIP ออกมาพูดสั้น ๆ แต่เจ็บจี๊ดว่า "Windows มันห่วย!" พร้อมอธิบายว่าทำไมระบบปฏิบัติการที่เขาเคยร่วมสร้าง ถึงกลายสภาพเป็นเครื่องมือการตลาดที่น่ารำคาญใจ มากกว่าจะเป็น OS ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

Plummer ชี้ว่า Windows พยายามจะเป็นทุกอย่างให้ทุกคน ตั้งแต่ผู้ใช้เริ่มต้นไปจนถึง Power User ทำให้ตัว OS เลือกที่จะ "จับมือทำ" มากเกินไป และคอยชี้นำผู้ใช้ไปยังแอปฯ หรือบริการอื่น ๆ ของ Microsoft ที่ไม่ได้ต้องการเสมอไป เขาจึงเสนอไอเดียว่า Windows ควรมี "Professional Mode" สำหรับผู้ใช้ขั้นสูง ที่ตัดฟีเจอร์ชี้นำที่ไม่จำเป็นออกไป ให้ผู้ใช้ควบคุมเครื่องได้ตามใจชอบ ไม่ใช่ตามที่ Microsoft อยากให้เป็น เหมือนที่โปรแกรมอย่าง Adobe Photoshop Elements มีโหมด Quick, Guided และ Advanced ให้เลือกตามความถนัด

แต่ประเด็นไม่ได้มีแค่เรื่องการออกแบบ Plummer ยังจวกไปถึงการที่ Microsoft เปลี่ยน Windows ให้กลายเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูล Telemetry (ข้อมูลการใช้งานทางไกล) ที่ไม่เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เขาสรุปเสียงบ่นที่ดังที่สุดในตอนนี้ไว้ 4 เรื่องหลัก ๆ คือ ความเป็นส่วนตัวและ Telemetry, การบังคับให้ใช้ Microsoft Account ตอนติดตั้ง, การอัปเดตที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวเหมือนหน่วย SWAT บุก และความรู้สึกว่าหน้า Desktop กลายเป็นพื้นที่สุดท้ายที่ยังไม่ถูกเปลี่ยนเป็นเงิน ซึ่ง Plummer เสนอให้มี "Privacy Ledger" หรือสมุดบัญชีความเป็นส่วนตัว ที่แจกแจงรายละเอียดการเก็บข้อมูลทั้งหมดอย่างโปร่งใส

อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ผู้ใช้หัวร้อนคือการ "บังคับ" ให้ใช้ Microsoft Account แทนที่จะให้ทางเลือกในการใช้ Local Account อย่างชัดเจน ซึ่ง Plummer มองว่านี่เป็นการกระทำที่เหมือนเห็นผู้ใช้เป็นเด็ก และยืนยันว่า Microsoft รู้ดีที่สุด เขาเสนอทางออกง่าย ๆ ว่าแค่ทำหน้าจอให้มี 2 ตัวเลือกชัด ๆ ไปเลยคือ "ไปต่อด้วย Microsoft Account" หรือ "ไปต่อด้วย Local Account" แบบไม่มีลูกเล่นซ่อนเร้นใด ๆ

ที่น่าสนใจคือ การวิจารณ์ของ Plummer ดูจะได้รับการยืนยันโดยไม่ได้ตั้งใจจากผู้บริหารของ Microsoft เอง เมื่อ Pavan Davuluri ประธานของ Microsoft ทวีตข้อความอวดวิสัยทัศน์ว่า "Windows กำลังพัฒนาไปสู่ Agentic OS" ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์, Cloud และ AI เข้าด้วยกัน แต่แทนที่จะได้รับเสียงชื่นชม กลับโดนชาวเน็ตถล่มยับด้วยความเห็นทำนองว่า "ขอ Windows 7 คืนได้ไหม?", "ขนาดไอคอน Taskbar เล็ก ๆ ที่คนอยากได้ยังทำให้ดีไม่ได้เลย" หรือ "วิสัยทัศน์ที่คุณว่ามา ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าอยากได้เลย"

ท้ายที่สุดแล้ว Plummer สรุปว่า Windows มันจะ "ห่วย" ก็ต่อเมื่อมันลืมไปว่ากำลังทำงานให้ใครอยู่ เขาเชื่อว่า Microsoft ต้องให้ความเคารพและให้อิสระกับผู้ใช้ที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วก็แค่ถอยออกมา...ดูเหมือนว่าการยัดเยียดโฆษณาและบริการต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ากำลังถูกคอมพิวเตอร์ของตัวเองขายของใส่อยู่ทุกวัน จนลืมไปแล้วว่าหน้าที่หลักของ OS คืออะไรกันแน่