ข้ามไปยังเนื้อหา

Game Pass แลกเลือด? Microsoft ยอมทิ้งรายได้หมื่นล้านจาก Call of Duty

เทคโนโลยี
8 ครั้ง
0 ความเห็น
1 นาที
Game Pass แลกเลือด? Microsoft ยอมทิ้งรายได้หมื่นล้านจาก Call of Duty
Photo by HIZIR KAYA on Unsplash
By Suphansa Makpayab
TL;DR

รายงานจาก Bloomberg เผยว่า Microsoft ยอมสละรายได้จากการขายเกม Call of Duty ไปกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อดึงเกมเข้าสู่บริการ Game Pass แม้จะทำให้ยอดผู้สมัครพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอในสายตาผู้บริหาร จนนำไปสู่การขึ้นราคาค่าบริการครั้งใหญ่

มีรายงานจาก Bloomberg ออกมาสะกิดต่อมสงสัยของเกมเมอร์ ว่าการที่ Microsoft ตัดสินใจนำเกมแม่เหล็กอย่าง Call of Duty เข้าสู่บริการ Game Pass นั้น อาจต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงลิ่ว โดยแหล่งข่าววงในเผยว่า บริษัทอาจยอมสละรายได้จากการขายเกมโดยตรงไปมากกว่า US$300 ล้าน (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) ในปีที่แล้ว

แต่เรื่องมันก็ย้อนแย้งในตัวเองอยู่ไม่น้อย เพราะในขณะที่ตัวเลขยอดขายเกมแบบซื้อขาดหายไป Satya Nadella, CEO ของ Microsoft กลับออกมาบอกว่า Call of Duty Black Ops 6 สร้างสถิติมีผู้เล่นเปิดตัววันแรกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมยังทำรายได้รวม (Revenue) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแฟรนไชส์อีกด้วย การนำเกมเข้า Game Pass ทำให้ยอดผู้สมัครสมาชิกใหม่พุ่งกระฉูดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตรงนี้ทำให้หลายฝ่ายหันมามองว่า หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่แท้จริงของการประกาศขึ้นราคา Game Pass Ultimate ครั้งใหญ่? แม้รายได้รวมจะดูดี แต่ดูเหมือนว่ากำไรส่วนต่าง (Profit Margin) อาจยังไม่เข้าตาเหล่าผู้บริหาร โดยเฉพาะ Amy Hood, CFO ของบริษัท ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเคี่ยวตัวเลข การสละรายได้จากการขายเกมราคาเต็ม US$70 (≈ 2,500 บาท) เพื่อแลกกับค่าสมาชิกรายเดือน อาจทำให้สมการกำไรไม่สวยงามอย่างที่คิด และการขึ้นราคาก่อนที่ Black Ops 7 จะเปิดตัวเพียง 11 วัน ก็ดูจะจงใจเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

การขึ้นราคาครั้งนี้ก็สร้างคำถามตัวโตๆ ให้กับผู้บริโภคเช่นกัน ว่าการจ่ายค่าบริการรายปีที่แพงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อ 'เช่า' เกมเล่น จะคุ้มค่ากว่าการรอซื้อเกมตอนลดราคาหรือไม่ ในเมื่อคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Battlefield ก็กำลังกลับมาอย่างแข็งแกร่ง การสร้างกำแพงค่าบริการให้สูงขึ้นในช่วงเวลานี้ อาจกลายเป็นการผลักผู้เล่นไปหาคู่แข่งแทน

สุดท้ายแล้ว แม้จะทำลายสถิติทั้งยอดผู้เล่นและรายได้ แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ Microsoft แล้ว คำว่า 'พอ' อาจจะยังไม่มีอยู่จริง สงสัยว่าเป้าหมายที่แท้จริงของผู้บริหารคงไม่ใช่แค่การเติบโตแบบ 'ถล่มทลาย' แต่อาจจะเป็นการเติบโตแบบ 'ทะลุจักรวาล' ไปเลยกระมัง


*หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้คำนวณคือ US$1 ≈ 36.7 บาท

ความเห็น (0)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น

เข้าสู่ระบบ

ยังไม่มีความเห็น

เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้