iPhone ฟ้อง ‘Slow Charger’ บนหน้าจอ? ไม่ต้องตกใจ มาดูสาเหตุและวิธีแก้กัน

ข่าวนี้มาจาก 9to5Mac ที่เล่าว่าใครที่ใช้ iPhone แล้วอัปเดตเป็น iOS 26 อาจจะเคยเห็นข้อความ ‘Slow Charger’ โผล่มาทักทายบนหน้าจอตอนชาร์จแบตฯ ไม่ต้องตกใจไป นี่คือฟีเจอร์ใหม่แกะกล่องที่ Apple ใส่มาเพื่อบอกเราแบบเนียน ๆ ว่า “เพื่อน... หัวชาร์จที่ใช้อยู่น่ะ มันช้าไปหน่อยนะ”

สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะเราอาจจะยังใช้หัวชาร์จรุ่นเก่าหรือสายที่ไม่รองรับการชาร์จเร็วอยู่ โดยเฉพาะใครที่เพิ่งอัปเกรดจาก iPhone รุ่นเก่ามาเป็นรุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้พอร์ต USB-C แล้วยังใช้หัวชาร์จ USB-A สี่เหลี่ยมแบบเดิม ๆ ที่จ่ายไฟได้แค่ 5-7.5 วัตต์ ซึ่งถ้าเอามาชาร์จ iPhone 17 อาจต้องรอนานถึง 3 ชั่วโมงกว่าจะเต็ม

แล้วจะชาร์จเร็วยังไง? ง่ายนิดเดียว แค่หาอุปกรณ์ที่ใช่! สำหรับการชาร์จแบบเสียบสาย แค่เปลี่ยนไปใช้หัวชาร์จ USB-C ที่รองรับ Power Delivery (เทคโนโลยีจ่ายไฟแรง) และมีกำลังไฟตั้งแต่ 30 วัตต์ขึ้นไป คู่กับสาย USB-C ดี ๆ สักเส้น ด้วยสเปกนี้ คุณจะสามารถชาร์จแบตฯ จาก 0% ไปถึง 50% ได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ส่วนยี่ห้อก็ไม่เกี่ยง จะเป็นของ Apple เอง หรือแบรนด์อย่าง Anker, Belkin ก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน

ส่วนสายชาร์จไร้สายก็เจออาการนี้ได้เหมือนกัน ถ้าคุณใช้แท่นชาร์จ Qi รุ่นแรก ๆ ที่จ่ายไฟได้ไม่ถึง 10 วัตต์ ทางแก้คือมองหาอุปกรณ์ชาร์จไร้สายที่เป็นมาตรฐาน MagSafe หรือ Qi2 ซึ่งจะทำให้ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ชาร์จเร็วแบบไร้สายได้สูงสุดถึง 25 วัตต์เลยทีเดียว

แต่ถ้าเห็นคำเตือน ‘Slow Charger’ แล้วไม่อยากเปลี่ยน ก็ไม่เป็นไรนะ! การชาร์จช้าไม่ได้เป็นอันตรายต่อตัวเครื่องหรือแบตเตอรี่แต่อย่างใด มันเป็นแค่เรื่องของความสะดวกสบายล้วน ๆ ถ้าคุณเป็นสายชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนอยู่แล้ว การที่มันจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงเพื่อชาร์จให้เต็มก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่

แต่ถ้าใจร้อนอยากได้ความเร็วแบบทันใจ ก็คงต้องยอมลงทุนกันหน่อย จะได้ไม่ต้องมานั่งมองจอแล้วหงุดหงิดว่าเมื่อไหร่จะเต็มสักที