Google Maps อัปเดตใหญ่ ดัน AI Gemini ช่วยเลือกที่กินที่เที่ยว-ทำนายจุดชาร์จ EV

Google เดินเกมยกระดับ Google Maps ครั้งใหญ่ ใส่ AI เข้าไปแทบทุกมุม ทั้งช่วยตัดสินใจเรื่องกินเที่ยว ไปจนถึงช่วยเลี่ยงคิวรอชาร์จรถ EV แถมยังเพิ่มฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัวเวลาคนเข้าไปเขียนรีวิวสถานที่ต่าง ๆ อีกชั้นหนึ่ง เหมือนจะบอกกลาย ๆ ว่าอยากให้ Maps เป็นทั้งไกด์ส่วนตัวและสมุดรีวิวในที่เดียวจบ

ไฮไลต์แรกคือทิปส์แบบ “Know before you go” ในหน้า Listing ของร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานที่จัดคอนเสิร์ต โดย Google Maps ใช้ Gemini ไปกวาดรีวิวและข้อมูลออนไลน์ มาสรุปเป็นอินไซต์สั้น ๆ ว่า จองโต๊ะยังไงดี, มีเมนูลับอะไรบ้าง, ที่จอดรถควรเลี่ยงมุมไหน ฯลฯ แล้วให้กดเข้าไปอ่านรายละเอียดต่อได้ ฟีเจอร์นี้เริ่มปล่อยในสหรัฐบน Android และ iOS ก่อน ส่วนประเทศอื่นรวมถึงไทยก็รอคิวกันไปแบบใจเย็น ๆ

ฝั่งสายเที่ยว แท็บ Explore ก็ถูกยกเครื่องใหม่ ใครเปิดแผนที่จะเห็นโซน Trending โชว์ร้านอาหาร กิจกรรม และสถานที่ยอดนิยมใกล้ตัวแบบทันสถานการณ์ แถมยังมีลิสต์แนะนำจากแหล่งที่เชื่อถือได้อย่าง Viator, Lonely Planet, OpenTable รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์สายกินเที่ยวท้องถิ่นอย่าง Sisterssnacking มาช่วยเปิดพิกัดลับทั้งเมืองใหม่เมืองเก่า ฟีเจอร์ Explore แบบใหม่นี้เริ่มทยอยปล่อยทั่วโลกบน Android และ iOS ภายในเดือนนี้ ตรงนี้ทำเอาหลายคนเริ่มกลัวกระเป๋าสตางค์บางก่อนตารางท่องเที่ยวจริง

ด้านคนใช้รถ EV ก็ได้ของเล่นใหม่ที่ดูมีประโยชน์จริงจัง Google Maps เดิมทีแสดงสถานะหัวชาร์จจากเครือข่ายอย่าง Tesla Superchargers และ Electrify America อยู่แล้ว แต่รอบนี้ขยับไปอีกขั้นด้วยการ ทำนาย ว่าตอนที่ขับไปถึงจะน่าจะเหลือหัวชาร์จกี่หัว โดยอาศัยทั้งข้อมูลย้อนหลังและข้อมูลเรียลไทม์ ช่วยลดโอกาสไปถึงแล้วเจอคิวแน่นหน้าเสาไฟ ฟีเจอร์คาดการณ์นี้จะเริ่มปล่อยสัปดาห์หน้าบน Android Auto และรถที่มี Google built-in รองรับสถานีชาร์จเป็นหลักแสนทั่วโลก ใครขับ EV อยู่ก็ลุ้นให้ที่เที่ยวโปรดไม่กลายเป็นสนามรบแย่งหัวชาร์จ

อีกฝั่งคือเรื่องความเป็นส่วนตัวของคนชอบเขียนรีวิว Google Maps เปิดให้ตั้งชื่อเล่น (Nickname) และรูปโปรไฟล์เฉพาะสำหรับใช้กับรีวิวได้ แทนการโชว์ชื่อจริงเต็ม ๆ แม้เบื้องหลังรีวิวยังผูกกับ Google Account ตามเดิม และ Google ยืนยันว่าจะยังสแกนจัดการรีวิวปลอมเหมือนเดิมไม่ผ่อนคันเร่ง ฟีเจอร์ชื่อเล่นและรูปโปรไฟล์นี้จะทยอยใช้ได้ทั่วโลกบน Android, iOS และบนเดสก์ท็อปภายในเดือนนี้ สุดท้ายก็เหลืออย่างเดียวที่ Google ยังคงทำนายไม่ได้แน่ ๆ คือรีวิวดุ ๆ จากสายโหดที่ร้านไหนทำพัง