แคลิฟอร์เนียสั่งเบาเสียงโฆษณาสตรีมมิ่ง หลังเสียงดังจนทารกสะดุ้งตื่น!

รัฐแคลิฟอร์เนียผ่านกฎหมายใหม่ สั่งให้บริการสตรีมมิ่งทุกเจ้าต้องลดเสียงโฆษณาไม่ให้ดังเกินเนื้อหาหลักที่กำลังดูอยู่ โดยกฎหมายนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 กรกฎาคม 2026 เป็นต้นไป
ใครที่เคยสะดุ้งโหยงเพราะเสียงโฆษณาที่ดังทะลุจอตอนดูหนังเพลิน ๆ คงต้องยิ้มมุมปาก เพราะล่าสุด Gavin Newsom ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เซ็นอนุมัติกฎหมายใหม่ชื่อ Senate Bill 576 ที่จะเข้ามาคุมระดับเสียงโฆษณาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, Disney Plus, Prime Video ไปจนถึง YouTube ไม่ให้ดังกว่ารายการหลักที่เราดูอยู่ โดยจะมีผลบังคับใช้จริงในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026
จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว เพราะกฎหมายฉบับนี้เป็นการต่อยอดมาจากกฎหมายเดิมที่ชื่อว่า Commercial Advertisement Loudness Mitigation (CALM) Act ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2010 แต่ในตอนนั้นครอบคลุมแค่สถานีโทรทัศน์และผู้ให้บริการเคเบิลทีวีเท่านั้น การขยายผลมาถึงวงการสตรีมมิ่งในครั้งนี้จึงถือเป็นการอัปเดตให้ทันโลกยุคใหม่ที่ใคร ๆ ก็ดูคอนเทนต์ผ่านอินเทอร์เน็ตกันหมดแล้ว
แต่ที่น่าสนใจคือเบื้องหลังของกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มาจากเรื่องใหญ่โตอะไร แต่มาจากเรื่องสุดน่ารักปนน่าเห็นใจ เมื่อทีมงานของวุฒิสมาชิก Thomas Umberg ผู้ผลักดันร่างกฎหมายนี้ ได้บ่นเรื่องที่ลูกน้อยของเขาที่ชื่อ Samantha มักจะสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเสียงโฆษณาที่ดังลั่นออกมาจากทีวี กลายเป็นที่มาของไอเดียที่ว่า “ถึงเวลาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
ด้วยความที่แคลิฟอร์เนียถือเป็นผู้นำเทรนด์ในอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐฯ ก็ไม่น่าแปลกใจถ้าในอนาคตเราจะได้เห็นรัฐอื่น ๆ หรือแม้แต่ประเทศอื่น ๆ เดินตามรอยกฎหมายฉบับนี้ ก็ต้องรอดูกันไปว่าแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะปรับตัวกันอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ พ่อแม่ลูกอ่อนในแคลิฟอร์เนียคงได้นอนหลับเต็มตากันมากขึ้นอีกนิดล่ะ
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้