วิกฤต Peak Extinction: โลกจ่อเสียธารน้ำแข็ง 3,000 แห่งต่อปี หากคุมอุณหภูมิไม่อยู่

งานวิจัยล่าสุดจาก Nature Climate Change เผยโมเดลจำลองอนาคตธารน้ำแข็งโลก ชี้หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นตามแนวโน้มปัจจุบัน (2.7°C) เราจะสูญเสียธารน้ำแข็งเฉลี่ยปีละ 3,000 แห่งในช่วงกลางศตวรรษ และจะเหลือรอดเพียง 1 ใน 5 ภายในปี 2100 เตือนพื้นที่อย่างเทือกเขา Alps อาจไม่เหลือธารน้ำแข็งให้ละลายอีกต่อไป
ถ้าคุณคิดว่าภาพน้ำแข็งขั้วโลกละลายเป็นเรื่องไกลตัว งานวิจัยล่าสุดจากวารสาร Nature Climate Change อาจทำให้ต้องคิดใหม่ เพราะทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Lander Van Tricht ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่พวกเขาเรียกว่า "Peak Extinction" หรือจุดสูงสุดของการสูญพันธุ์ของธารน้ำแข็ง ซึ่งชี้ว่าโลกเราไม่ได้แค่กำลังสูญเสียมวลน้ำแข็ง แต่กำลังจะสูญเสีย "จำนวน" ธารน้ำแข็งไปในอัตราเร่งที่น่าใจหาย จากปัจจุบันที่หายไปราว 1,000 แห่งต่อปี ตัวเลขนี้อาจพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
ทีมวิจัยได้ใช้ข้อมูลดาวเทียมวิเคราะห์ธารน้ำแข็งกว่า 2 แสนแห่งทั่วโลก และจำลองฉากทัศน์ (Scenario) ออกมาให้เห็นภาพชัดเจน ดังนี้:
• กรณีดีที่สุด (คุมอุณหภูมิไม่เกิน 1.5°C): อัตราการสูญเสียจะพีคที่ 2,000 แห่งต่อปี และโลกจะยังเหลือธารน้ำแข็งราว 45% ในปี 2100
• กรณีตามนโยบายปัจจุบัน (อุณหภูมิพุ่ง 2.7°C): อัตราการสูญเสียจะแตะ 3,000 แห่งต่อปีในช่วงปี 2040-2060 และจะเหลือรอดเพียง 1 ใน 5 (ราว 20%) เท่านั้น
• กรณีเลวร้ายสุด (อุณหภูมิพุ่ง 4°C): ธารน้ำแข็งจะหายไปถึงปีละ 4,000 แห่ง และเหลือรอดเพียง 9% หรือเรียกได้ว่าแทบสูญพันธุ์
Matthias Huss หนึ่งในทีมวิจัย (ผู้ที่เคยจัดงานศพเชิงสัญลักษณ์ให้ธารน้ำแข็ง Pizol ในสวิสมาแล้ว) ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่สถิติทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรื่องที่ "กระทบจิตใจ" อย่างรุนแรง แม้การหายไปของธารน้ำแข็งก้อนเล็กอาจไม่ได้ทำให้น้ำทะเลหนุนสูงเท่าก้อนยักษ์ในขั้วโลก แต่มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศท้องถิ่น การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของผู้คนที่ผูกพันกับภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้มาอย่างยาวนาน
ที่ตลกร้ายแบบขำไม่ออกคือ นักวิจัยทิ้งท้ายไว้ว่า ในพื้นที่ที่มีธารน้ำแข็งขนาดเล็กเป็นหลักอย่างเทือกเขา Alps หรือ Andes อัตราการสูญเสียจะค่อยๆ ลดลงจนเกือบเป็น "ศูนย์" ในช่วงปลายศตวรรษ ไม่ใช่เพราะมนุษย์แก้ปัญหาโลกร้อนได้สำเร็จ แต่เป็นเพราะ "มันแทบไม่มีธารน้ำแข็งเหลือให้ละลายแล้ว" ต่างหาก ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ธรรมชาติมอบให้แบบที่มนุษย์คงไม่อยากรับไว้เท่าไหร่นัก
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้