วันอังคารนี้แหละ—ได้เวลาเลิกเดากันเสียที เพราะงาน iPhone 2025 ของ Apple (ชื่อก็เล่นใหญ่ว่า “Awe dropping”) จะเผยโฉมตระกูล iPhone 17 อย่างเป็นทางการ 9 กันยายน 1PM ET พร้อม iOS 26 ใส่มาให้จากโรงงาน ตามสไตล์บ้านเขา รายละเอียดจริงยังล็อกแน่น แต่ข่าวลือจากซัพพลายเชนเอเชีย ผู้ผลิตเคส และคอลัมนิสต์สาย Apple อย่าง Mark Gurman ก็ประโคมมาพร้อมหน้า: คาดมี 4 รุ่น—iPhone 17 ตัวพื้นฐาน, รุ่นบางเฉียบ iPhone Air, และคู่ Pro/Pro Max ที่มักยัดกล้องและลูกเล่นครบเครื่อง
ดาวเด่นที่คนชอบของบางเบาคงจับตา iPhone 17 Air—ลือว่าเครื่องบางพิเศษ ชิป A19 เวอร์ชันพื้นฐาน กล้องหลังเลนส์เดี่ยว และใช้โมเด็ม in-house ของ Apple (ตัวเดียวกับที่โผล่ใน iPhone 16e) หน้าจอ 6.6 นิ้ว มี Dynamic Island กับปุ่ม Camera Control ครบ โชคดีที่ไอเดีย “ไร้พอร์ต” ถูกพับไปก่อน แต่ข่าวแบตฯ ไม่ค่อยชวนอุ่นใจ: แพ็กแบตหนาแค่ 2.49 มม. ความจุราว 2,800 mAh ซึ่ง Gurman ก็จัดให้ตรงๆ ว่า Air รุ่นแรกๆ อาจ “ตามไม่ทัน” ทั้งกล้องและแบตเมื่อเทียบกับ 17 ตัวฐานหรือรุ่น Pro วัสดุตัวเครื่องก็ยังสับสน—มีทั้งเสียงลือกรอบไทเทเนียม, อลูมิเนียม หรือผสมผสาน สรุปคือยังเดาไปก่อนจนกว่า Apple จะพูดเอง
ฝั่ง iPhone 17 Pro ข่าวโรงงานชี้ว่าอาจเปลี่ยนมาใช้โครงอลูมิเนียมทั้งชิ้น (เบากว่ารุ่น Pro ที่ใช้ไทเทเนียมปัจจุบัน) พร้อมลือการออกแบบเสาอากาศใหม่รอบปุ่มกล้องที่นูนกว้างขึ้น หวังสัญญาณไร้สายดีขึ้น ด้านหลังว่ากันว่าจะเป็น “camera island” เต็มความกว้างครั้งแรก แถมจอ Pro อาจสว่างสุดเท่าที่เคยมี เพื่อสู้แดดจ้าได้นานขึ้น ชุดสีปีนี้ก็เล่นใหญ่: รุ่นพื้นฐานมีดำ ขาว steel gray เขียว ม่วง ฟ้าอ่อน; iPhone 17 Air เน้นโทนอ่อน ดำ ขาว ฟ้าอ่อน ทองอ่อน; ส่วน Pro/Pro Max ไปสายเข้ม—ดำ ขาว เทา น้ำเงินเข้ม และส้ม (Gurman ยังย้ำสีส้มของ Pro กับฟ้าอ่อนของ Air ด้วย) โลกของเคสก็ไม่ยอมน้อยหน้า มีข่าว TechWoven เคสพร้อมรูคล้องสาย 2 จุด สีใหม่พรึ่บ และเคสใสแบบเว้นแผ่นขาวทับโซน MagSafe ให้เห็นกันจะๆ
เรื่องราคา—ถ้าบอกว่า “นิ่งสนิท” คงโลกสวยไปนิด Apple ขยายพาร์ตเนอร์ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อลดแรงกระแทกจากภาษีตามนโยบายการค้าของประธานาธิบดี Trump ก็จริง แต่ขึ้นลงได้ทุกสัปดาห์ ใครจะไปรู้ล่ะ มีลือว่าค่าเริ่มต้นของความจุจะขยับเป็น 256GB (จากเดิม 128GB) อาจพ่วงขึ้นราว $50 หรือประมาณ 1,800 บาท ขณะที่ JPMorgan มองว่าไลน์เริ่มต้นยังไล่ตั้งแต่ $799 ถึง $1,199 (ราว 28,800–43,200 บาท) โดย iPhone Air อาจแพงกว่า iPhone Plus ที่มันมาแทนราว $50 และ iPhone 17 Pro อาจบวกอีก $100 (ประมาณ 3,600 บาท) แต่ใส่สตอเรจมากขึ้น ทั้งหมดนี้ยัง “คาดการณ์” เท่านั้นนะ รอฟังปากเจ้าของงานวันจริงจะดีกว่า
ฝั่งซอฟต์แวร์ iOS 26 (ปีไหนก็เลขนั้น—ง่ายดี) มาพร้อมแนวทางดีไซน์ Liquid Glass ที่ลดความโปร่งใสลงจากเบต้าแรกๆ แอป Phone และ Photos ถูกยกเครื่อง ฟีเจอร์ AI โผล่หลายจุด ทั้ง live translation ใน Phone/FaceTime/Messages, Visual Intelligence ค้นหาองค์ประกอบในภาพ และการเตือนเนื้อหาอ่อนไหวสำหรับบัญชีเด็กที่ถึงขั้นหยุดวิดีโอ FaceTime ถ้าตรวจพบนู้ดบนเครื่อง นอกจากนี้ยังมีคุณภาพชีวิตเล็กๆ อย่างโหวตในกลุ่มแชต และเลิกยึดติดปลุก “สนูซ 9 นาที” เสียที ใครอยากลอง เบต้าเปิดสาธารณะแล้ว (รองรับตั้งแต่ iPhone 11 เป็นต้นไป) ส่วนของแถมบนเวที—ตามรอยเดิมน่าจะมี Apple Watch Series 11, Apple Watch Ultra 3, Apple Watch SE และ AirPods Pro 3 (ลือเพิ่มวัดหัวใจ+แปลสด) ส่วน AirTags ใหม่กับของอย่าง Apple TV, HomePod mini, Studio Display, iPad ใหม่ๆ อาจทยอยทีหลัง เพราะงานนี้พระเอกชื่อ iPhone เท่านั้นล่ะ
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบ