Discord อัปเดต Family Center ให้ผู้ปกครองส่องได้ลึกขึ้น ทั้งเงินที่เปย์และคนที่คุยด้วย

Discord อัปเดตใหญ่ฟีเจอร์ Family Center ให้ผู้ปกครองสามารถติดตามพฤติกรรมของลูกหลานวัยทีนได้ละเอียดยิ่งขึ้น ทั้งการใช้จ่าย เวลาที่ใช้ในแอป และคนที่คุยด้วยบ่อย ๆ เพื่อสร้างพื้นที่ออนไลน์ที่ปลอดภัยแต่ยังเคารพความเป็นส่วนตัว
Discord เอาใจผู้ปกครอง อัปเดตใหญ่ฟีเจอร์ Family Center ให้สามารถสอดส่องพฤติกรรมของลูกหลานวัยทีนได้ละเอียดยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่าย เวลาที่ใช้ในแอป หรือคนที่คุยด้วยบ่อย ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ปกครองดูแลได้ว่าลูก ๆ ใช้เวลาหรือใช้เงินบน Discord มากเกินไปหรือไม่
หลังจากที่เปิดตัว Family Center ไปเมื่อปี 2023 พร้อมแดชบอร์ดให้ดูว่าลูกหลานเราไปเข้า Server ไหนบ้าง และมีอีเมลสรุปรายสัปดาห์ส่งให้ มาคราวนี้ Discord จัดหนักกว่าเดิม เพิ่มความสามารถในการมอนิเตอร์ให้ลึกขึ้นไปอีกขั้น โดยผู้ปกครองจะเห็นข้อมูลเหล่านี้ได้:
ยอดใช้จ่ายทั้งหมด: ดูได้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาลูกหลานจ่ายเงินซื้ออะไรไปบ้าง ทั้งจากร้านค้าของ Discord และการสมัครสมาชิก Nitro (บริการพรีเมียมของ Discord)
เวลาที่ใช้ไป: สามารถดูเวลาทั้งหมดที่ใช้ในการคุยผ่านเสียงและวิดีโอคอล ทั้งใน DM, กลุ่ม และ Server ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
คนที่คุยด้วยบ่อยสุด: แสดงรายชื่อ 5 อันดับแรกของ User และ Server ที่ลูกหลานมีปฏิสัมพันธ์ด้วยมากที่สุดในรอบ 7 วัน
ยังไม่หมดแค่นั้น Discord ยังเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ปกครองควบคุมการใช้งานของลูกได้โดยตรง ซึ่งการตั้งค่าเหล่านี้มีเพียงผู้ปกครองเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น การกำหนดว่าใครสามารถส่งข้อความส่วนตัว (DM) หาได้, การเปิด/ปิดฟิลเตอร์กรองเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Content) รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อควบคุมว่า Discord จะนำข้อมูลของลูกไปใช้อย่างไร ซึ่งรวมถึงการแสดงโฆษณาแบบ Personalized ด้วย
ที่น่าสนใจคือ เมื่อวัยทีนกดรีพอร์ตเนื้อหาไม่เหมาะสมบนแพลตฟอร์ม ตอนนี้จะมีตัวเลือกให้แจ้งเตือนผู้ปกครองเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวได้ด้วย แต่ Discord ก็แอบกระซิบว่าจะไม่เปิดเผยรายละเอียดของเนื้อหาที่ถูกรีพอร์ต โดยสนับสนุนให้วัยทีนไปพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ปกครองโดยตรงแทน ซึ่ง Discord ย้ำว่า “ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ปกครองมีบทบาทในการสร้างพื้นที่ออนไลน์ที่ปลอดภัยให้ลูกหลานได้มากขึ้น แต่ก็ยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเขา”
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Discord ก็สอดคล้องกับเทรนด์ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Meta, YouTube หรือ OpenAI ที่ต่างก็ทยอยออกอัปเดตเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยของวัยทีนกันถ้วนหน้าในช่วงที่ผ่านมา งานนี้เหล่าวัยทีนอาจจะต้องปรับตัวกันหน่อย ส่วนฝั่งผู้ปกครองก็คงยิ้มมุมปากที่ได้เครื่องมือมาช่วยดูแลลูกหลานได้ใกล้ชิดขึ้น แต่ก็อย่าลืมว่าความไว้ใจซึ่งกันและกันก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบยังไม่มีความเห็น
เป็นคนแรกที่แสดงความเห็นในบทความนี้