Meta เร่งเครื่องสาย AI สร้าง Meta Superintelligence Labs (MSL) ชน OpenAI, Google และ Microsoft แถมควัก 14.3 พันล้านดอลลาร์ฮุบ Scale AI พร้อมดึงซีอีโอ Alexandr Wang มากุมบังเหียนงาน AI ทั้งยวง—ฟังดูอลัง แต่เบื้องหลังไม่สวยเท่าไร เมื่อ Sam Altman แฉว่า Meta อัดโบนัสเซ็นสัญญาแบบ “ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์” ล่อคนจาก OpenAI/Anthropic จนทีมใหม่ของ Meta แน่นไปด้วยศิษย์เก่า…ทว่าปัญหาจริงเพิ่งเริ่ม: จะเก็บคนไว้ได้กี่เดือนกันแน่
ตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ: โฆษก Meta บอกกับ The Verge ว่า Ethan Knight เพิ่งโบกมือลา MSL หลังเข้าร่วมได้ไม่ถึงเดือน ส่วน Avi Verma กับ Rishabh Agarwal ก็ประกาศแยกทางทั้งที่ยังไม่ทันเริ่มงานจริง ขณะเดียวกัน Rohan Varma และ Chaya Nayak (ผอ.ผลิตภัณฑ์ฝั่ง generative AI) ย้ายจาก Superintelligence Lab ไปอยู่ OpenAI เป็นที่เรียบร้อย ได้ตัวแล้วหลุดมือไวขนาดนี้ เงินอย่างเดียวคงไม่พอจริงๆ
คนวงการบอกตรงกันว่าเกมนี้ไม่ได้มีแค่เงิน ใครๆ ก็เลือกที่ยืนตามค่านิยมเรื่องความปลอดภัยของ AI และผลกระทบต่อสังคม บางรายถึงขั้นปฏิเสธข้อเสนอเพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใน TBD Lab ซึ่งเป็นทีมย่อยของ MSL ที่ตั้งเป้าทำ “ซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์” หรือระบบที่ฉลาดกว่ามนุษย์ในภาพรวมพอดี ในเวลาไล่เลี่ยกัน Meta ยังประกาศหยุดจ้างและรีสตรักเชอร์ แบ่งงานชัดเป็น 4 เสา: TBD Lab โฟกัสฝึก/สเกลโมเดลใหญ่เพื่อซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์, FAIR ช่วยต่อท่อไอเดียวิจัยสู่การสเกล, Products & Applied Research ดึงงานวิจัยใกล้สินค้า (รวมทีม Assistant, Voice, Media, Trust, Embodiment, Developer เดิม), และ MSL Infra ปูโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งแต่คลัสเตอร์ GPU ข้อมูล ไปจนถึงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา
อีกฟาก Microsoft ก็ไม่รอช้า เปิดสมุดรายชื่อ “ตัวท็อปที่อยากได้” จาก Meta พร้อมข้อเสนอหลายล้านดอลลาร์ เล็งพิเศษไปที่ Reality Labs, GenAI Infrastructure และ Research เล่นกันแรงระดับนี้ ต่อให้ Zuck กวาดทาเลนต์มาได้เป็นโขยง คำถามที่ยังคาใจเหมือนเดิมคือ—จะรั้งไว้ไม่ให้หลุดมือซ้ำได้หรือเปล่า