Google Maps ปรับวิธีเก็บข้อมูล Timeline ใหม่ เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ฟีเจอร์นี้เคยบันทึกเส้นทางและสถานที่ที่เราไปเพื่อแนะนำและให้ย้อนดูทริปย้อนหลัง โดยต้องยินยอมให้ Google เก็บบนเซิร์ฟเวอร์ก่อน แต่ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว ถูกจับตาหนักขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในปี 2019 New York Times รายงานว่าตำรวจใช้หมายศาลขอ geofencing data จาก Google เพราะผู้ต้องสงสัยไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูล—Google เป็นคนถือ ข้อมูลถูกเก็บใน Sensorvault โดยผูกกับ “Anonymous ID” และตามด้วยอีกหมายศาลเพื่อเชื่อม ID กับตัวตนจริง ส่งผลให้ชื่อผู้ใช้และข้อมูลส่วนบุคคลถูกส่งให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ใช่ทุกครั้งที่ไปถึงคนร้ายตัวจริง
ปลายปีที่แล้ว Google จึงย้าย Timeline ไปเก็บแบบ on-device ข้อมูลตำแหน่งจะอยู่ในเครื่องที่สร้างมันขึ้นมา ผู้ใช้ยังเลือกแบ็กอัพขึ้นคลาวด์ได้ แต่ต้องเปิดเอง “ต่อเครื่อง” หากไม่เปิดไว้ ข้อมูลอาจหายเมื่อรีเซ็ตเครื่อง หรือถูกลบอัตโนมัติหลังช่วงเวลาหนึ่ง (ตั้งค่าให้ไม่ลบได้) ด้านความเป็นส่วนตัวถือว่าดีขึ้น แต่ภาระการจัดการตกอยู่กับผู้ใช้เต็มๆ
ผลที่ตามมาคือมีคนจำนวนไม่น้อย—including ผู้เขียนต้นเรื่อง—พลาดช่วงเปลี่ยนผ่าน พอเปลี่ยนมือถือบ่อยและไม่ได้ตั้งแบ็กอัพไว้ ทริปบนถนน การย้ายบ้าน ขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ รวมถึงงานอย่าง CES หรือ IFA ก็หายหมด เช็กเครื่องเก่าก็ไม่ช่วย เพราะข้อมูลไม่ได้แบ็กอัพไว้ตั้งแต่แรก
ยิ่งไปกว่านั้น การแจ้งเตือนเรื่องการเปลี่ยนแปลงถูกซ่อนไว้ในหน้า Timeline ซึ่งหลายคนแทบไม่กดเข้าไป ทำให้ผู้ใช้ทั่วไป—รวมถึงคนในครอบครัวของผู้เขียน—ไม่รู้ว่าต้องแบ็กอัพ จนประวัติการเดินทางหลายปีหายวับ แม้ฟีเจอร์จะยังอยู่ แต่รู้สึกเหมือนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณเพิ่งรู้ ลองเปิด Google Maps แล้วเข้าไปที่หน้า Timeline ผ่านรูปโปรไฟล์เพื่อดูการแจ้งเตือนและตั้งค่าแบ็กอัพต่อแต่ละอุปกรณ์
ความเห็น (0)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความเห็น
เข้าสู่ระบบ